นางพรรณพิมล ชัญญานุวัตร อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการเกษตร ได้ร่วมกับกรมการข้าว ดำเนินโครงการเพิ่มศักยภาพการผลิตข้าวและสร้างความเข้มแข็งให้ชาวนา เพื่อรองรับผลกระทบจากการเปิดเสรีการค้าอาเซียน หรือ อาฟต้า (AFTA) ปี 2553-2555 โดยกิจกรรมหลักที่กรมส่งเสริมการเกษตรเข้าไปดำเนินการคือ กิจกรรมหมู่บ้านลดต้นทุนการปลูกข้าว ในพื้นที่นำร่อง 2 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ และ อ่างทอง โดยมีการจัดทำแปลงส่งเสริมการลดต้นทุนการปลูกข้าว โดยใช้เครื่องจักรกลการเกษตรในขั้นตอนการเตรียมดิน เพาะกล้า และปักดำ 2 จุด คือ ต.จันเสน อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ และ ต.มงคลธรรมนิมิต อ.สามโก้ จ.อ่างทอง นอกจากนี้ ยังได้เปิดศูนย์เรียนรู้และบริหารเครื่องจักรกลในการปลูกข้าว นำร่อง 2 ศูนย์ คือ ศูนย์เรียนรู้และบริการเครื่องจักรกลบ้านดงมัน ต.จันเสน อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ และ ศูนย์เรียนรู้และบริการเครื่องจักรกลบ้านทองครึม ต.มงคลธรรมนิมิต อ.สามโก้ จ.อ่างทอง โดยศูนย์ฯ ดังกล่าวได้รับการสนับสนุนเครื่องจักรกลในการเตรียมดิน เครื่องเพาะกล้า และรถดำนาจากกรมส่งเสริมการเกษตร
นางพรรณพิมล กล่าวอีกว่า “นอกจากเป้าหมายที่ได้รับตามโครงการแล้ว การส่งเสริมให้มีการนำเครื่องจักรกลการเกษตรมาใช้ ยังสามารถช่วยลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานภาคการเกษตรให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่าง ดี โดยเฉพาะในภาวะปัจจุบันที่รัฐบาลมีนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ซึ่งทำให้แรงงานส่วนใหญ่พากันอพยพเข้าไปสู่ภาคอุตสาหกรรม จนส่งผลกระทบต่อแรงงานภาคการเกษตร ดังนั้น ทิศทางของโครงการในอนาคต กรมส่งเสริมการเกษตรยังวางแผนเตรียมสนับสนุนให้ชาวนาหันมาใช้เครื่องจักรกล การเกษตรอย่างเต็มรูปแบบในการปลูกข้าว เริ่มตั้งแต่การเตรียมดินโดยไม่เผาตอซัง การเพาะกล้า ปัดดำ และการเก็บเกี่ยว เพื่อทดแทนการสูญเสียแรงงานที่เข้าสู่โรงงาน และยังเป็นการนำภาคการเกษตรของไทยก้าวขึ้นไปสู่ยุคใหม่ของการผลิตอีกด้วย” นางพรรณพิมล กล่าว