ไปร่วมวงระดมความเห็น "กฎหมาย Digital Economy : ส่งเสริมหรือสวนทางปฏิรูป" ของอนุกมธ.พิจารณากฎหมายดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ปลายสัปดาห์ที่แล้ว
ประจวบเหมาะบอร์ดเตรียมการด้านดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมมี "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งเป็นประธานสั่งเปรี้ยงให้ กสทช.เดินหน้าประมูลคลื่น 4 จี จากที่ คสช.สั่งเบรกไว้ 1 ปีจนค่ายมือถือชะเง้อเมื่อยคอ

ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวาณิชย์ ประธานทีดีอาร์ไอ ได้ทีปล่อยของหนัก ซัดกฎหมายที่กำลังร่างกำลังแก้เพื่อปฏิรูปกันเวลานี้ เขียนบทบัญญัติโดย "ไม่เข้าใจเศรษฐศาสตร์" มีปรากฏทั้งในร่างรัฐธรรมนูญจนถึงร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. กสทช. ในเรื่องของการพิจารณาอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ ที่ต่างระบุว่า "...การคัดเลือกให้ทำโดยวิธีการประมูล แต่หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการประมูลต้องคำนึงถึงประโยชน์สาธารณะ และประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับ โดยจะคำนึงถึงจำนวนเงินที่เสนอให้แต่เพียงอย่างเดียวมิได้...." เงื่อนไขที่ห้อยท้าย "โดยจะคำนึงถึงจำนวนเงินที่เสนอให้แต่เพียงอย่างเดียวมิได้" นี้เองที่สะท้อน "ความเข้าใจผิด" หลักเศรษฐศาสตร์ของคนยกร่าง
ประธานทีดีอาร์ไอ.แจงว่า หลักคิดเบื้องหลังการประมูลที่ใครเสนอราคาสูงสุดคือผู้ชนะ เพราะคนที่ให้ราคาสูงกว่าใครแสดงว่าสามารถบริหารจัดการได้มีประสิทธิภาพสูง สุด ทำต้นทุนได้ต่ำสุด จึงสามารถจ่ายได้มากกว่าคนอื่น สังคมก็ได้ประโยชน์สูงสุด โดยที่ประเด็นประโยชน์สาธารณะหรือประโยชน์ของผู้บริโภคสามารถตั้งเงื่อนไข เป็นข้อกำหนดในการเปิดประกวดราคาแต่ละครั้งได้อยู่แล้ว ว่าต้องการอะไร แค่ไหนและอย่างไร
อย่าไปห่วงว่าแข่งประมูลราคาสูงๆ แล้วจะไปตั้งราคาแพงๆ เอากับผู้บริโภค เพราะธรรมชาติพ่อค้าไม่ว่าจะประมูลถูกหรือแพง ของมีต้นทุนสูงหรือต่ำ ก็จะตั้งราคาขายสูงที่สุดเท่าที่จะขายได้อยู่แล้ว ไม่มียกเว้น แต่ราคาสินค้าในตลาดจะสูงหรือต่ำ จะถูกหรือแพง ขึ้นอยู่กับปริมาณของกับความต้องการ หรือดีมานด์กับซัพพลาย ของมีน้อยราคาก็แพง ถ้าของมากราคาก็ถูก ไม่เกี่ยวว่าต้นทุนจะเป็นเท่าไหร่
ดร.สมเกียรติ ยก 3 ตัวอย่าง ประมูลคลื่น 3 จีคราวก่อน ค่ายมือถือได้ราคาต่ำกว่ามูลค่าตลาด แต่ก็ไม่เห็นมีใครทำตามเงื่อนไขให้ปรับลดอัตราค่าบริการลง 30% หรือประมูลทีวีดิจิตอลแข่งหนักให้ราคากันสูงลิ่ว เพราะอยากเป็นเจ้าของสถานี แต่ก็ไม่มีใครกล้าตั้งค่าโฆษณาแพงๆ ให้คุ้มค่าประมูลเพราะคู่แข่งพร้อมตัดราคาสู้
ตัวอย่างสุดท้ายถามว่าถ้ารัฐยกเหมืองทองคำให้ฟรีๆ ได้ทองคำมาจะคิดว่าจะขายที่ราคาเท่าไหร่? ใครก็ต้องตอบว่า ขายแพงสุดเท่าที่จะขายได้ในตลาดเวลานั้น ราคาที่ประมูลจึงไม่เกี่ยวกับราคาสินค้าที่จะขายวิ่งเต้น
ดร.สมเกียรติตั้งข้อสงสัย เขียนรัฐธรรมนูญและกฎหมายมีเงื่อนไขให้พิจารณา "เงื่อนไขอื่น" ประกอบแบบนี้ เท่ากับเปิดช่อง "โดยเสรี"
สรุปตบท้าย ต้องรีบแก้ร่างรัฐธรรมนูญและร่างแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายกสทช.โดยด่วน ก่อนที่บทบัญญัติจะมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย โดยเข้าใจผิดในหลักวิชา "เศรษฐศาสตร์"
แต่เอ๊ะ! เรื่องแบบนี้ "โง่" หรือ "แกล้งโง่" กันแน่ อิอิ...
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,037 วันที่ 22- 25 มีนาคม พ.ศ. 2558