จากการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ครั้งที่ 2/2558 เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2558 โดยมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ที่ประชุม กนพ. มีมติที่สำคัญเพื่อขับเคลื่อนงานเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษให้บรรลุเป้าหมายและ พร้อมรองรับการลงทุนของภาคเอกชนในปี 2558 รวมถึงเริ่มเตรียมการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในระยะต่อไป ดังนี้
1. เห็นชอบให้ตั้งอนุกรรมการภายใต้ กนพ.เพิ่มเติมอีก 1 ชุด โดยประกอบด้วยผู้แทนภาคเอกชนเพื่อให้ข้อเสนอแนะด้านการตลาดและเชิญชวนนักลง ทุนเพื่อให้เกิดเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษที่เป็นรูปธรรม
2. เห็นชอบกิจการเป้าหมายในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ระดับสูงตามประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนที่ 4/2557 จำนวน 13 กลุ่มกิจการ ได้แก่ (1) อุตสาหกรรมการเกษตร ประมงและกิจการที่เกี่ยวข้อง (2) เซรามิกส์ (3) อุตสาหกรรมสิ่งทอเครื่องนุ่งห่ม และเครื่องหนัง (4) อุตสาหกรรมผลิตเครื่องเรือน (5) อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ (6) การผลิตเครื่องมือแพทย์ (7) อุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องจักรและชิ้นส่วน (8) อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (9) การผลิตพลาสติก (10) การผลิตยา (11) กิจการโลจิสติกส์ (12) นิคมหรือเขตอุตสาหกรรม และ (13) กิจการเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว โดยให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ สกท.เสนอคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนพิจารณาและออกเป็นประกาศคณะกรรมการส่ง เสริมการลงทุนต่อไป
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นการค้าการลงทุนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษในจังหวัด สระแก้วซึ่งเป็นจังหวัดชายแดน มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศกัมพูชา จึงได้เชิญรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา มาร่วมหารือข้อราชการเพื่อส่งเสริมและขยายโอกาสการค้าและการลงทุนร่วมกัน ระหว่างวันที่ 25 – 27 มีนาคม 2558 เป็นการรองรับการเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในช่วงปลายปี 2558 นี้ โดยในวันที่ 26 มีนาคม 2558 รัฐมนตรีพาณิชย์ของทั้งสองประเทศจะเดินทางไปยังโรงแรมอินโดไชน่า เพื่อเข้าร่วมรับฟังความคืบหน้าด้านความร่วมมือและการลงทุนร่วมกันของภาค เอกชน 2 ประเทศ จำนวน 5 คู่ ดังนี้
1) ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนาม MOU ว่าด้วยความร่วมมือระหว่างหอการค้าไทยและหอการค้ากัมพูชา และหอการค้าจังหวัดสระแก้วกับหอการค้าบันเตียเมียนเจย จำนวน 2 คู่
2) ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนาม MOU ว่าด้วยการร่วมลงทุนโรงสีข้าว การลงทุนด้านโลจิสติกส์ และการจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าในเขตเศรษฐกิจพิเศษปอตเปตโอเนียง จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชา มูลค่าการลงทุนประมาณ 2,500 ล้านบาท ภายหลังการเป็นสักขีพยานดังกล่าว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทยและกัมพูชาจะเดินทางไปเป็นประธาน ร่วมพิธีเปิดงานมหกรรมการค้าชายแดนจังหวัดสระแก้ว ณ สนามหน้าสถานีรถไฟอรัญประเทศ (หน้าโรงแรม อรัญเมอร์เมด) ซึ่งกำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 26 – 30 มีนาคม 2558 ในงานมีออกร้านจำหน่ายสินค้าของไทยและสินค้าของผู้ประกอบการกัมพูชา มีคูหาสินค้าส่งออก สินค้าแฟรนไชส์ สินค้าเกษตรอินทรีย์ สินค้า OTOP สินค้าเครื่องจักรกลการเกษตร คลินิกให้คำปรึกษาของหน่วยงานต่าง ๆ จำนวน 300 คูหา รวมทั้งมีการจัดสัมมนาผู้ประกอบการและการจัดทำ Business Matching
ทั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ของทั้งสองประเทศได้ตั้งเป้าหมายให้การค้า ระหว่างประเทศขยายตัวร้อยละ 20 – 25% ต่อปี หรือประมาณ 6,000 ล้านเหรียญในปี 2558 โดยการจัดงานครั้งนี้เป็นการร่วมกันพัฒนากิจการด้านโลจิสติกส์และการขนส่ง ต่อเนื่องหลายรูปแบบ การตั้งศูนย์กระจายสินค้าเพื่อใช้ประโยชน์จากเส้นทางในพื้นที่เศรษฐกิจตอน ใต้ (Southern Economic Corridor : SEC) จากกรุงเทพฯ – เสียมเรียบ – สตรึงเตร็ง - รัตนคีรี (กัมพูชา) – เปอร์กุ – ฮอยอัน (เวียดนาม) รวมทั้งยังมีเส้นทางที่เชื่อม (Inter Corridor Link) กับเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก ตะวันตก เชื่อมเมียนมาร์ ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม อีกด้วย ซึ่งเส้นทางดังกล่าว นอกจากเป็นการเชื่อมต่อการค้าระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนแล้วยังสามารถ เชื่อมต่อไปยังตลาดโลกได้อีกด้วย