สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

อีไอซีคาดมูลค่าส่งออกของไทยปี58โตแค่ 0.8%จากปีก่อน
28/02/2015
ข่าวเศรษฐกิจ

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์หรืออีไอซีออกบทวิเคราะห์ "ส่งออกไทยเดือนมกราคมหดตัว 3.5%YOY ขณะที่การนำเข้าลดลงต่อเนื่อง"

event
กระทรวงพาณิชย์รายงานมูลค่าการส่งออกไทยเดือนมกราคมปี 2015 อยู่ที่ 17,248.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หดตัวลง 3.5%YOY ด้านการนำเข้าหดตัวต่อเนื่องในเดือนมกราคมที่ 13.3%YOY มาอยู่ที่ 17,705.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้ไทยกลับมาขาดดุลการค้าที่ 456.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยการส่งออกและการนำเข้าของไทยนั้น ยังคงหดตัวต่อเนื่องมาจากเมื่อปีที่แล้ว
    
analysis

มูลค่าการส่งออกไทยหดตัวอีกครั้งในเดือนมกราคม จากการส่งออกสินค้าเกษตรและสินค้าที่เชื่อมโยงกับน้ำมันดิบ มูลค่าการส่งออกยางพารายังไม่ฟื้นตัว โดยในเดือนมกราคมหดตัวลงอีกกว่า 40%YOY ขณะที่การส่งออกสินค้าเกษตรหลักอื่นๆ เช่น ข้าวและน้ำตาลกลับมาหดตัวอีกครั้งในช่วงต้นปีนี้ หลังจากช่วงปลายปี 2014 ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมูลค่าการส่งออกข้าวและน้ำตาลลดลง 13.0%YOY และ 12.6%YOY ตามลำดับ จากปริมาณการส่งออกที่ลดลง และราคาน้ำตาลที่ลดลงถึงกว่า 5% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เช่นเดียวกับการส่งออกอาหารทะเลกระป๋องและแปรรูปที่หดตัวลง 13.8%YOY  ในเดือนมกราคม เป็นผลมาจากการถูกตัดสิทธิพิเศษทางศุลกากร (Generalized System of Preferences: GSP) จากสหภาพยุโรป ซึ่งส่งผลให้การส่งออกสินค้าดังกล่าวไปยังตลาดสหภาพยุโรปติดลบถึง 19.4%YOY ในเดือนมกราคม ด้านการส่งออกสินค้าที่เชื่อมโยงกับน้ำมันดิบอย่างน้ำมันสำเร็จรูป เคมีภัณฑ์ และพลาสติกนั้น หดตัวลง 28.1%YOY 21.9%YOY และ 10.7%YOY ตามลำดับ หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบโลกในเดือนมกราคมหดตัวไปกว่า 50% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งส่งผลกระทบต่อราคาส่งออกของสินค้าดังกล่าวที่มีสัดส่วนราว 15% ต่อการส่งออกทั้งหมดของไทย

ในขณะที่การส่งออกสินค้าในหมวดอิเล็กทรอนิกส์ และรถยนต์และส่วนประกอบขยายตัวได้ดี การส่งออกเครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ และแผงวงจรไฟฟ้าขยายตัว 3.7%YOY และ 21.2%YOY ตามลำดับในเดือนมกราคม ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของไทย ด้านการส่งออกรถยนต์และส่วนประกอบนั้น ขยายตัวกว่า 16%YOY ในเดือนมกราคม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฐานที่ต่ำเมื่อปีที่แล้ว ประกอบกับการส่งออกรถยนต์อีโคคาร์ (Eco-cars) ไปยุโรปที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้การส่งออกรถยนต์นั่งเพิ่มขึ้นถึง 40.9%YOY

มีเพียงมูลค่าการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ ที่สามารถขยายตัวได้ดีในเดือนมกราคม ในขณะที่การส่งออกไปยังตลาดสำคัญอื่นๆ หดตัวลง มูลค่าการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ ขยายตัวต่อเนื่อง โดยในเดือนมกราคมขยายตัว 6%YOY ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ในขณะที่การส่งออกไปยังสหภาพยุโรปกลับมาหดตัวที่ 5.6%YOY เนื่องจากสินค้าไทยทุกรายการถูกตัดสิทธิ GSP ในปีนี้ ด้านการส่งออกไปยังญี่ปุ่นและจีนหดตัวต่อเนื่องที่ 7.5%YOY และ 19.7%YOY ตามลำดับ จากเศรษฐกิจของประเทศที่ชะลอตัวลง อีกทั้งมูลค่าการส่งออกไปยังตลาดอาเซียนหดตัวลง 0.7%YOY หลังจากการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปของไทยไปยังตลาดอาเซียนถูกกดดันด้วยราคา น้ำมันโลกที่ลดลง

มูลค่าการนำเข้าที่หดตัว เป็นผลมาจากราคาน้ำมันโลกที่ลดลง มูลค่าการนำเข้าในเดือนมกราคมลดลง 13.3%YOY โดยการนำเข้าน้ำมันดิบหดตัวลงกว่า 55%YOY จากราคาน้ำมันโลกที่ลดลง ส่งผลให้การนำเข้าเชื้อเพลิงที่มีสัดส่วนราว 20% ของการนำเข้าทั้งหมดหดตัว 46.8%YOY ในเดือนมกราคม ในขณะที่การนำเข้าสินค้าทุนปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 1.7%YOY ซึ่งเป็นผลมาจากการนำเข้าเครื่องบินและเรือเป็นหลัก แต่การนำเข้าเครื่องจักรกลและส่วนประกอบยังคงหดตัวกว่า 10%YOY
    
implication

การส่งออกไทยเริ่มต้นปี 2015 ได้ไม่ดีนัก และมีแนวโน้มขยายตัวในระดับต่ำต่อไปในปีนี้ การส่งออกไทยในปีนี้มีปัจจัยหลากหลายที่กดดันการขยายตัว โดยราคาน้ำมันโลกที่ลดลงจะส่งผลกระทบต่อมูลค่าการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป เคมีภัณฑ์ และพลาสติกของไทย ซึ่งมีสัดส่วนรวมกันถึง 15% ต่อการส่งออกทั้งหมด อีกทั้งยังกดดันราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะราคายางพาราและน้ำตาล นอกจากนี้ เศรษฐกิจของคู่ค้าสำคัญของไทยอย่าง จีน ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรปต่างมีทิศทางชะลอลง ประกอบกับการที่ไทยถูกตัดสิทธิ GSP จากสหภาพยุโรปในทุกหมวดสินค้า จะส่งผลให้การส่งออกของไทยในปีนี้ขยายตัวในระดับต่ำต่อไป โดยอีไอซีคาดว่าทั้งปี 2015 มูลค่าการส่งออกไทยจะขยายตัวเล็กน้อยที่ 0.8%YOY โดยมีปัจจัยบวกเพียงการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ ที่กลับมาฟื้นตัว ซึ่งจะช่วยให้การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของไทยขยายตัวได้ดีขึ้น

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.