สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.)
ผู้ประกอบการ

จักรมนฑ์ พบกมธ.เศรษฐกิจ-การค้าญี่ปุ่น ยันลงทุนไทยต่อเนื่อง
05/02/2015
ข่าวเศรษฐกิจ

"จักรมณฑ์" ยอมผ่อนผันบางเกณฑ์ให้กลุ่มทุนญี่ปุ่น หวังดึงความสนใจเพิ่มจากสิทธิประโยชน์ BOI

 http://www.matichon.co.th/online/2014/10/14131786351413178710l.jpg

นายจักรมณฑ์ ผาสุกวานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวหลังการเข้าพบของคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและการค้าญี่ปุ่น-ไทย สมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่นว่า รัฐบาลยืนยันว่าจะดำเนินการตามแผนโรดแม็ปการเปลี่ยนแปลงประเทศในด้านการ เมือง เศรษฐกิจ และสังคม นับตั้งแต่ปี 2557-2559 ซึ่งจะเอื้อต่อนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทั้ง 3 ด้านนั้นส่งผลให้โครงสร้างพื้นฐาน และระบบเศรษฐกิจไทยเติบโตฟื้นตัวในทิศทางที่ดีกว่าเดิม

"ไทย จึงจำเป็นต้องเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันในทุกมิติ ทั้งการปรับยุทธศาสตร์ นโยบาย รวมถึงระเบียบกฎเกณฑ์ต่างๆให้เท่าทันต่อพลวัตของการเปลี่ยนแปลง และเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปีนี้"


ภาย ใต้การหารือร่วมกันครั้งนี้ ญี่ปุ่นยังคงแสดงความจำนงที่จะเข้ามาลงทุนในไทยต่อเนื่อง และยังไม่มีความวิตกกังวลต่อเหตุการณ์หรือความผันผวนใดๆ ในประเทศไทย เพราะยังคงเห็นว่าไทยมีจุดแข็งมากกว่าประเทศอื่นในอาเซียน เพราะในบางประเทศยังไม่มีฐานการผลิตที่จะป้อนในนักลงทุนญี่ปุ่นหากไปตั้ง บริษัทที่นั่น แม้ว่าในกลุ่มอาเซียนอินโดนีเซียจะมีอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจดีกว่าไทย ซึ่งสูงเป็นอันดับ 1 ขณะที่ไทยทีอัตราการเติบโตด้านเศรษฐกิจเป็นอัน 2

ขณะ ที่ภาครัฐไทยหวังให้ทุนญี่ปุ่นเข้ามาต่อเนื่อง ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เผยถึงมูลค่าการขอเข้ามาส่งเสริมการลงทุนปี 2557 รวม 672 โครงการ คิดเป็นเงินลงทุนรวมกว่า 293,000 ล้านบาท ก่อให้เกิดการจ้างงานแรงงานไทยเพิ่มขึ้นจำนวนไม่น้อยกว่า 41,000 คน และหลังการไปเยือนญี่ปุ่นของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงความร่วมมือลงทุนด้านคมนาคม อย่าง รถไฟเส้นทางเชื่อมทวาย-กรุงเทพฯ ก็จะยิ่งเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจระหว่างไทยและญี่ปุ่นมากขึ้น ซึ่งญี่ปุ่นก็พยายามผลักดันให้นักลงทุน SMEs เข้ามาในไทย ซึ่งไทยก็หวังว่ากลุ่ม SMEs ดังกล่าวในปีนี้จะเข้ามาถึง 500 ราย ตามที่ได้ประเมินไว้ตั้งแต่ต้นปี ซึ่ง SMEs ญี่ปุ่น 500 รายมูลค่าแต่ละแห่งประมาณ 400-500 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 25,000 ล้านบาท

สำหรับยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุนใหม่ของ BOI เพื่อเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืนที่ประกาศขึ้นเริ่มใช้เมื่อ 1 มกราคม 2558 นั้น ยังคงทำให้นักลงทุนญี่ปุ่นเข้ามาเช่นเดิม แต่อาจต้องกลับมาดูเงื่อนไขกรอบในบางอย่างใหม่ เช่นสิทธิที่ดิน สิทธิประโยชน์บางอย่างหากนักลงทุนญี่ปุ่นต้องการให้ผ่อนผันเกณฑ์บางอย่างก็ สามารถปรับได้ แต่จะต้องยืนกฎหมายที่ประกาศเอาไว้ เพราะไทยเองจำเป็นต้องมีจุดยืนด้านเศรษฐกิจของตนเอง

ในส่วนของนายอิ เอะโซะ โคบายาชิ (Mr. Eizo KOBAYASHI) ประธานคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและการค้าญี่ปุ่น-ไทย สมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น ยังหารือเรื่องแรงงานกับกระทรวงแรงงาน และหารือกับ BOI ถึงสิทธิประโยชน์จะได้จากไทย

สำหรับนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริม ภาคธุรกิจด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรม และการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ประชาคม เศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ความร่วมมือกันจากนี้ มั่นใจว่านักลงทุนญี่ปุ่นจะได้ประโยชน์จาก AEC เช่นเดียวกับไทย เนื่องจาก AEC คือกลุ่มประเทศเศรษฐกิจที่เติบโตมาก มากกว่าไทยถึง 4 เท่า คือ ประชากรกว่า 600 ล้านคน ทั้งหมดจะเป็นประโยชน์การญี่ปุ่นเช่นกัน อย่างน้อยก็หวังให้นักลงทุนญี่ปุ่นเข้ามามากขึ้นกว่าเดิมจากนั้นค่อยต่อยอด ไปยังประเทศอื่นในอาเซียน

ข่าวอื่นๆ

+ แผนผังเว็บไซต์ แผนผังเว็บไซต์

ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย


อาคารสำนักพัฒนาอุตสาหกรรมรายสาขา ชั้น 1-2
ซอยตรีมิตร ถนนพระราม 4 แขวงพระโขนง
เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 (แผนที่)
โทรศัพท์ 02-7136290-2, 02-713-6547-50, 02-7124402-7 ต่อ 211-213


ภายใต้งบประมาณการสนับสนุน
จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
Copyright © 2015 Iron and Steel Institute of Thailand.