กรมส่งเสริมการค้าฯเผยเศรษฐกิจสหรัฐฯส่อแววสดใส หลัง 21 รัฐขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เพิ่มกำลังซื้อกว่า 3.2 ล้านคน กระตุ้นระบบเศรษฐกิจท้องถิ่น ไทยจัดกว่า 20 โปรเจ็ครุกตลาดเมริกาเหนือ

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นิวยอร์กว่า เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาอยู่ในเกณฑ์ดีอย่างต่อเนื่อง การส่งออกขยายตัว การจ้างงานดีขึ้นต่อเนื่องและอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่การส่งออกไทยไปตลาดสหรัฐฯขยายตัวในทิศทางดีเช่นกัน 11 เดือน(ม.ค.-พ.ย.)ของปี 57 เพิ่มขึ้น 3.3% หรือมีมูลค่า 21,814 ล้านเหรียญสหรัฐฯ(คิดเป็นสัดส่วน 10.4% ของตลาดรวม) ในปี 58 กรมฯได้ปรับแผนรุกตลาดอเมริกาเหนือทำกิจกรรมกว่า 20 โครงการ
“ตลาดอเมริกาเหนือ ประกอบด้วย สหรัฐฯ แคนาดาและเม็กซิโก จะเน้นสินค้ากลุ่มอาหารเป็นหลัก ในกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับซุปเปอร์มาร์เก็ต 10 กิจกรรมฯ นำคณะภาคเอกชนไทยประมาณ 100 รายเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติในต่างประเทศ 6 ครั้ง การจัดคณะผู้แทนการค้ามาเยือนไทย 2 ครั้ง หลังจากประสบความสำเร็จในช่วงธันวาคม 57 มีผู้นำเข้า ผู้ซื้อ 5 ภูมิภาคเข้าร่วมจับคู่ธุรกิจคณะใหญ่เดินทางมาซื้อสินค้าจากไทยโดยจะมีคำสั่ง ซื้อสินค้าต่อเนื่องในปีนี้ราว 367 ล้านบาท” นางนันทวัลย์ กล่าว
ทั้งนี้สินค้าอาหารไทยได้รับการนิยมทั่วโลก ล่าสุดบริษัทวิจัยแห่งหนึ่งในสหรัฐฯรายงานผลสำรวจเกี่ยวกับประเภทอาหารที่ นิยมทานของผู้บริโภคในซีแอทเทิลพบว่า 29% เลือกทานอาหารไทยแทนอาหารแมกซิกัน ในขณะที่จำนวนร้านอาหารในซีแอทเทิลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเทียบกับร้านอาหารจีน หรือ ร้านพิซซ่า โดยร้านอาหารไทยจำนวน 126 ร้านในซีแอทเทิล ซึ่งหากเทียบกับรัฐใกล้เคียงแล้ว ร้านอาหารมีมากกว่าในวอชิงตัน ดีซี 2 เท่า ในเดนเวอร์ 3 เท่า ในบอสตัน 4 เท่า จากการสำรวจร้านอาหารไทยยังถูกจัดอยู่ในลำดับที่ 4 ของประเภทร้านอาหารที่คนนิยมมากที่สุด ซึ่งเมนูที่ได้รับความนิยม คือ พะแนง และผัดซีอิ๊ว
ทั้งนี้เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาที่อยู่ในเกณฑ์ดีในไตรมาส 3 ปี 57 ยังคงขยายตัว อันเนื่องมาจากการใช้จ่ายเพื่อการบริโภค ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการส่งออกขยายตัว การจ้างงานดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ โดยเฉพาะความเชื่อมั่นผู้บริโภคในไตรมาสนี้อยู่ที่ระดับ 90.9 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันที่อยู่ในระดับ 81.0 ขณะที่สถานการณ์ด้านการเงิน มติที่ประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 57 ให้คงอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.25 % รวมถึงเฟดได้มีมติสิ้นสุดการซื้อหลักทรัพย์รัฐบาลสหรัฐฯ ตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ ครั้งที่ 3 (QE3) เนื่องจากเศรษฐกิจและตลาดแรงงานอยู่ในภาวะที่ดี
นางนันทวัลย์ กล่าวว่า ใน 21 รัฐของอเมริกา ได้แก่ อะลาสกา แอริโซนา อาร์คันซอ โคโลราโด คอนเนตทิคัต ฮาวาย แมริแลนด์ แมสซาชูเซตส์ มิสซูรี มอนแทนา เนแบรสกา เป็นต้น ได้ประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อแรงงานในสหรัฐฯ ที่มีจำนวนกว่า 3.2 ล้านคน มีกำลังซื้อมากขึ้นและจะทำให้ระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 838.3 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 27,664 ล้านบาท) นอกจากนี้ในรัฐที่เหลืออื่นๆ กำลังทะยอยรัฐค่าแรงขึ้นต่ำเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจท้องถิ่นให้ขยายตัวมากขึ้น
สินค้าส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ เครื่องคอมฯ อุปกรณ์และส่วนประกอบ 4,050 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ เพิ่มขึ้น 4.4 % รองลงมาเป็น ผลิตภัณฑ์ยาง อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องรับวิทยุ โทรทัศน์และส่วนประกอบ และ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป สินค้านำเข้ามีมูลค่า 13,308 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ ลดลง 2.5 % โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ เครื่องบิน เครื่องร่อน อุปกรณ์บินและส่วนประกอบ 1,990 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ เพิ่มขึ้น 7.7% รองลงมาเป็นเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า เคมีภัณฑ์ และ พืช