
นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า อัตราการเติบโตของการส่งออกไทยในปี 2557 คาดอยู่ระหว่างลบ 0.2% ถึง บวก 0.2% ส่วนในปี 2558 จะเติบโตประมาณ 2.5% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกจะเติบโตไม่ดีนัก เพราะยังไม่อยู่ในภาวะฟื้นตัวเต็มที่ ขณะที่ญี่ปุ่นเศรษฐกิจยังคงมีปัญหา และการแข่งขันยังรุนแรง ดังนั้นหากการส่งออกของไทยโตได้มากกว่า 2.5% ถือเป็นผลงานที่ดีของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม การส่งออกในช่วงไตรมาสที่ 1 และไตรมาสที่ 2 ยังน่าห่วงเนื่องจากตลาดสหภาพยุโรป หรืออียู ยังพึ่งไม่ได้ส่วนญี่ปุ่นก็ยังมีปัญหาเนื่องจากรัฐบาลจะประกาศปรับเพิ่ม อัตราภาษีจนเกิดภาวะเงินฝืด ส่วนจีนไม่น่าจะดีนัก เพราะมีการปรับนโยบายในประเทศ และน่าจะเป็นคู่แข่งในการส่งออกด้วย เพราะรัฐบาลจีนประกาศนโยบายเพิ่มการส่งออกมายังอาเซียนจากเดิมที่มียอดส่ง ออกประมาณ 400,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี เป็น 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ภายใน 5 ปีข้างหน้า ซึ่งอาเซียนเป็นตลาดเดียวกันกับไทย
รวมทั้งแนวโน้มราคาสินค้าเกษตรชะลอตัว ภัยธรรมชาติ โรคอีโบลา และขีดความสามารถการส่งออกของไทยที่ลดลงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ดังนั้นไทยควรต้องรีบดำเนินการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้สูงขึ้นใน ด้านต่างๆ เช่นพัฒนาคุณภาพของคน และการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการของไทย เป็นต้น
สำหรับการส่งออกไทยเดือนตุลาคม 2557 มีมูลค่า 20,164 ล้านเหรียญสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.97% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีก่อนหน้า ทำให้การส่งออกใน 10 เดือนแรก (มกราคม-ตุลาคม 2557) มีมูลค่า 190,620 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 0.36% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ในขณะที่มูลค่าการส่งออกในรูปเงินบาท เดือนตุลาคม 2557 มีมูลค่า 645,368 ล้านบาท ปรับตัวขึ้น 7.01% และระยะ 10 เดือนแรกของปี (มกราคม-ตุลาคม 2557) มีมูลค่า 6,119,881 ล้านบาท ขยายตัว 6.40%
ภาพรวมการส่งออกระยะ 10 เดือนเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น ผลจากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวของตลาดหลัก โดยสินค้าส่งออกสำคัญที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น อาทิ น้ำตาล ข้าว ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง อาหารทะเลแช่แข็งและแปรรูป ปรับตัวเพิ่มขึ้น 100.8% 34.7% 7.1% และ 3.2% ตามลำดับ โดยข้าวเป็นสินค้าที่มีอัตราการส่งออกสูงสุดด้วยนโยบายการเร่งระบายข้าว รวมถึงสถานการณ์ภัยแล้งในหลายประเทศทำให้มีการนำเข้าข้าวเพื่อเก็บสต๊อกมาก ขึ้น ในกลุ่มประเทศ เช่น ไนจีเรีย จีน และมาเลเซีย
พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่าได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ หารือร่วมกันในการวางกรอบยุทธศาสตร์การส่งออกปี 2558 เพื่อผลักดันการส่งออกให้ขยายตัว 4% ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยศึกษาความต้องการของรายตลาดตอบโจทย์ความต้องการสินค้าของลูกค้าแต่ละ ประเทศ และต้องกระจายความเสี่ยงไปตลาดต่างๆ ทั้งในตลาดเก่า เช่น สหรัฐ จีน ยุโรป ญี่ปุ่น และตลาดใหม่ด้วย โดยทั้ง 2 กรมต้องทำแผนให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อให้มีแนวทางการผลักดันการส่งออกที่ชัดเจน ซึ่งยอมรับว่าการที่เศรษฐกิจทั่วโลกไม่ดีทำให้การส่งออกของไทยขยายตัวได้ไม่เต็มศักยภาพ