นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงอยู่ระหว่างการทบทวนร่างพระราชบัญญัติเขตเศรษฐกิจพิเศษ พ.ศ.2548 เรื่องการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการทำงานของ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เพื่อรองรับการตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษทั่วประเทศ นอกจากนี้จะมีการปรับเปลี่ยนบทบาท กนอ.จากเดิมผู้ที่ทำหน้าที่กำกับดูแล และพัฒนานิคมอุตสาหกรรม เหลือเพียงการกำกับดูแล โดยอาจจะเปลี่ยนไปเป็นสำนักงานเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งทำหน้าที่เป็นฝ่ายเลขาฯของ คณะกรรมการนโยบายพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
“การมีเขตเศรษฐกิจพิเศษไม่จำเป็นต้องให้ กนอ.แปลงร่างก็ได้ เพราะจะได้ไม่ยุ่งยาก โดยอีกแนวทางคือ การตั้งให้เขตเศรษฐกิจพิเศษต่างๆ มีการบริหารจัดการที่เป็นอิสระ โดยอาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีเขตเศรษฐกิจพิเศษตั้งอยู่เป็นคนบริหาร จัดการ หรืออาจจะตั้งตำแหน่งใหม่เพื่อดูแลเฉพาะเขตไป เพื่อให้แต่ละพื้นที่มีการบริหารจัดการเป็นเอกเทศ แต่อยู่ภายในการกำกับดูแลภาพรวมของกนพ. ซึ่งวิธีนี้จะก็ไม่ต้องแปลงโฉมกนอ.ให้ยุ่งยาก เรื่องนี้ต้องสรุปให้เร็ว เพราะรัฐบาลชุดนี้มีอายุการทำงานแค่ 1 ปี” นายจักรมณฑ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม การปรับโครงสร้างดังกล่าวไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะยังมีประเด็นปัญหาเรื่องการบริหารจัดการบุคลากรของกนอ. ที่มีอยู่ประมาณ 560 คน รวมทั้งสินทรัพย์ และทรัพย์สินของกนอ.ที่มีมูลค่าอยู่ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท ว่าจะบริหารจัดการอย่างไร ซึ่งทั้งหมดนี้ยังไม่มีความชัดเจน ต้องไปหารือกันในรายละเอียดเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่เป็นแนวทางปฎิบัติชัดเจน
นายวีระพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวว่า ในวันที่ 25 ก.ย.2557 จะนำแนวนโยบายดังกล่าวเข้าไปหารือในที่ประชุมบอร์ด กนอ.เพื่อให้รับทราบและระดมความคิดเห็นจากที่ประชุม คาดว่าจะใช้เวลาในการหาข้อสรุปภายใน 60-90 วัน เมื่อได้ความเห็นแล้วก็จะสรุปส่งมาที่รมว.อุตสาหกรรม พิจารณา เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป ทั้งนี้หากกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ ก็จะทำให้ในอนาคตประเทศไทยจะไม่มีการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ขึ้นอีก