"ดร.โกร่ง" ส่งสัญญาณอันตราย หวั่นการเมืองถึงทางตัน ฉุด ศก.ซึมยาวฟื้นยาก ต้องพึ่งปาฏิหาริย์ เชื่อไร้ปฏิวัติ ด้านบิ๊กแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ห่วงเอสเอ็มอีเจ๊ง คนตกงานพุ่ง ขณะที่นายกฯ ส.แบงก์ ชี้ไร้รบ.จีดีพีจะโตแค่ 1-1.5% พร้อมหนี้เน่า........
วีรพงษ์ รามางกูร
เมื่อวันที่ 14 พ.ค. นายวีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวในงานเสวนา "สร้างโอกาสการลงทุนขับเคลื่อนไทยสู่อนาคต" โดยระบุว่า ปัญหาการเมืองภายในประเทศ การแตกแยกทางความคิดระหว่างคนไทยด้วยกันยังคงไม่จบลงง่ายๆ โดยสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังคงยืดเยื้อ ทำให้ขวัญกำลังใจของผู้บริโภค นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศลดน้อยลง คาดว่าการเมืองที่ถึงทางตัน กดดันให้เศรษฐกิจไทยซึมลงต่อเนื่องอีก 2-3 ปี และโอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวแข็งแรงคงเป็นไปได้ยาก เพราะทางตันทางการเมืองไม่หมดลงง่ายๆ ซึ่งคงจะต้องหวังพึ่งแต่เพียงปาฏิหาริย์เท่านั้น หากเศรษฐกิจซึมลงต่อเนื่องโอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะพังลงก็เป็นไปได้ เป็นสัญญาณอันตราย ซึ่งเมื่อถึงจุดนั้นอาจจะเป็นไปได้ที่ทุกฝ่ายมองเห็นหายนะของตัวเองก็จะกลับ มาปรองดองกันก็ได้?
ทั้งนี้ ได้เห็นสัญญาณของเศรษฐกิจแย่ลง อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไตรมาส 1 ติดลบและมีโอกาสที่จีดีพีไตรมาส 2 จะติดลบต่อเนื่อง การลงทุนภาครัฐทำไม่ได้ ขณะที่ภาคเอกชนไม่ลงทุน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศมีขีดจำกัด เพราะติดปัญหาทางการเมือง ซึ่งหากประเทศไทยไม่สามารถแข่งขันได้ในอนาคตก็จะอยู่ไม่ได้ในยุคโลกาภิวัตน์
นอกจากนี้ จากปัญหาการเมืองที่ยังไม่มีทางออก ทั้งแนวคิดการเสนอนายกรัฐมนตรีคนกลาง ซึ่งไม่มีคนกลางอย่างแท้จริง การปฏิวัติรัฐประหารก็จะยิ่งสร้างความยุ่งยาก หรือการเลือกตั้งก็คงจะถูกขัดขวางไม่ให้มีการจัดการเลือกตั้งภายในวันเดียว ได้ โดยส่วนตัวเชื่อว่าจะไม่มีการปฏิวัติรัฐประหาร เพราะทั้งสองฝ่ายต่างมีความระมัดระวังไม่ให้มีการปะทะกัน เพื่อป้องกันข้ออ้างในการปฏิวัติ?
อนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
ขณะที่นายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้มีโอกาสติดลบ หากยังไม่มีรัฐบาลใหม่เร็วๆ นี้ เพราะจะมีผลกระทบต่อการจัดทำงบประมาณปี 2558 ปัญหาการเมืองที่ยืดเยื้อ เปรียบเหมือนเลือดไหลไม่หยุด โดยบริษัทขนาดกลางและเล็กกำลังขาดสภาพคล่อง ทำให้บริษัทขนาดใหญ่ไปกินส่วนแบ่งตลาดของเอสเอ็มอีมากขึ้น และจะมีผลกระทบต่อการจ้างงาน การเลิกจ้างจะมากขึ้น เพราะเอสเอ็มอีเป็นภาคธุรกิจที่มีการจ้างงานจำนวนมาก
บุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารทหารไทย และนายกสมาคมธนาคารไทย
เช่นเดียวกับนายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารทหารไทย และนายกสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า เราอาจไม่มีรัฐบาลชัดเจนในครึ่งปีหลัง แต่เรามีทีมวิเคราะห์ข้อมูลซึ่งระบุว่าหากมีรัฐบาลได้ในครึ่งปีหลัง อัตราเติบโตทางเศรษฐกิจจะอยู่ที่ 2.0-2.2% หากไม่มีรัฐบาลอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจจะอยู่ที่ 1.0-1.5% ที่จริงประเทศไทยแข็งแกร่งเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจหนักมา 2 ครั้ง เราผ่านมาได้ทั้งวิกฤติต้มยำกุ้ง ปี 2540 และวิกฤติซับไพร์มปี 2552 แต่วิกฤติทางเศรษฐกิจที่ไทยเผชิญอยู่นี้น่ากังวลเรื่องหนี้เสียและการดำเนิน ธุรกิจของเอสเอ็มอี.