"ศูนย์วิจัยฯ ไทยพาณิชย์" เชื่อแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังปรับลดลงได้อีก ประเมินการเมืองยืดเยื้อ รัฐบาลใหม่อาจจัดตั้งได้ในช่วงปลายปี ส่งออก-การลงทุนฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด......
ดร.สุทธาภา อมรวิวัฒน์ Chief Economist และผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) เสนอบทวิเคราะห์กรณีคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.00%? โดยระบุว่า การใช้จ่ายในประเทศมีแนวโน้มอ่อนแอตลอดทั้งปีนี้ และมีความเป็นไปได้ที่การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่จะล่าช้าไปจนถึงช่วงปลายปี เนื่องจากปัญหาความขัดแย้งด้านการเมืองยังไร้ข้อสรุป ส่งผลให้การบริโภคและการลงทุนไม่สามารถฟื้นตัวได้ในเร็ววัน ในขณะที่ภาครัฐไร้มาตรการแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงาน ส่งผลให้ภาคการส่งออกไม่สามารถฟื้นตัวได้เร็วอย่างที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า นี้ เศรษฐกิจไทยจึงมีแนวโน้มขยายตัวในระดับต่ำ
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายสามารถปรับลดลงได้อีก เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และลดภาระทางการเงินของภาคเอกชน ในภาวะที่ความไม่แน่นอนทางการเมืองมีแนวโน้มยืดเยื้อไปจนถึงช่วงท้ายของปี โดย EIC มองว่าความเสี่ยงทางด้านเสถียรภาพทางเศรษฐกิจทั้งในด้านหนี้ครัวเรือนและ เงินเฟ้อ ยังคงอยู่ในระดับที่สามารถรับมือได้ เนื่องจากในปัจจุบันธนาคารพาณิชย์ได้เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น และอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับที่ไม่สูงนักเมื่อเทียบกับในอดีต
สำหรับการตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. ประเมินความเสี่ยงจากเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น เพราะความไม่แน่นอนทางการเมือง ทำให้เศรษฐกิจไตรมาสแรกหดตัวมากกว่าที่คาด เนื่องจากการลงทุนภาคเอกชนและการท่องเที่ยว ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม กนง.มองว่าภาวะการเงินในปัจจุบันไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการใช้จ่ายในประเทศ และนโยบายการเงินยังผ่อนคลายเพียงพอสำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย