เมื่อเครื่องจักรกลทางศก.มีปัญหา
สวัสดีเศรษฐกิจ : เมื่อเครื่องจักรกลทางเศรษฐกิจมีปัญหา ไม่สามารถที่จะขับเคลื่อนประเทศได้ : โดย...สุรพล โอภาสเสถียร
ในบทความวันนี้ผมขอเริ่มในประเด็น เมื่อเครื่องจักรกลทางเศรษฐกิจของประเทศทุกตัวมีปัญหาไม่สามารถที่จะขับ เคลื่อนประเทศได้ แล้วพวกเราๆ ท่านๆ จะไปต่อกันอย่างไรดี
เครื่องจักรกลแรก คือ การบริโภคของประชาชน ภาวะตอนนี้ ประชาชนผู้ที่มีฐานะดีไม่มีอารมณ์ใช้จ่าย เพราะกังวลต่อภาวะการเมืองภายในประเทศ การเมืองระหว่างประเทศ การปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงินของต่างประเทศ ซ้ำเติมด้วยข่าวสารและการแห่ไปถอนเงินฝากจากธนาคาร ที่น่าสนใจมากๆ คือเงินที่ชาวนายังไม่ได้รับจากโครงการภาครัฐ ซึ่งควรจะมาหมุนในระบบเศรษฐกิจ เรื่องนี้ส่งผลให้การใช้จ่ายของเกษตรกรลดลงตามไปด้วย
เครื่องจักรกลที่สองคือ การลงทุนหยุดชะงัก ทั้งการลงทุนจากในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะนักลงทุนต่างประเทศที่เฝ้ามองภาวะการเมืองของไทยว่าน่าจะใช้เวลาอีก นานกว่าจะสงบ จึงเริ่มมีชะลอการลงทุนหรืออาจเลยเถิดไปถึงการย้ายฐานการลงทุน โครงการส่งเสริมการลงทุนขนาดใหญ่ค้างอยู่เกือบ 400 คำขอ ต้องหยุดการพิจารณาส่งเสริมไปโดยปริยาย
เครื่องจักรกลที่สามคือ การใช้จ่ายภาครัฐที่ต้องหยุดชะงักลง เพราะรัฐบาลปัจจุบันเป็นการรักษาการ ต้องรอรัฐบาลใหม่ที่มีอำนาจเต็มและจะสามารถเร่งรัดการใช้งบประมาณได้อย่าง เต็มที่ รัฐวิสาหกิจยังไม่สามารถที่จะลงทุนได้เพราะบางโครงการต้องมีกระบวนการขอ อนุมัติจากรัฐบาลใหม่ก่อนอย่างที่ทราบๆ กัน
เครื่องจักรกลที่สี่คือ การส่งออก ที่คาดกันว่าจะมีการเจริญเติบโตดีขึ้นมาบ้างเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของโลกและ ประเทศคู่ค้าของไทยนั้นมีการฟื้นตัว แต่ก็ยังหวังได้ไม่มากนัก เรื่องที่ผู้สั่งสินค้าที่เป็นคนนำเข้าสินค้าส่งออกจากไทยนั้นจะยังคงมั่น ไหมใจว่าผู้ผลิตจากประเทศไทยจะสามารถส่งมอบสินค้าที่เขาสั่งซื้อได้ตามเวลา นัดหมาย
เครื่องจักรกลที่ห้าคือ การท่องเที่ยวได้รับผลกระทบมากสุด เพราะความไม่สงบทางการเมืองและการมีกฎหมายพิเศษออกมาใช้ในเวลานี้ ย่อมทำให้นักท่องเที่ยวลดลงกว่าที่คาดหมายโดยลดลงกว่า 5 แสนคนจากไตรมาสแรกปีที่แล้ว
จากข้อมูลทั้งหมดเชื่อได้ว่าเศรษฐกิจในปีนี้มีแนวโน้มที่ไม่สดใสอย่างแน่นอน ตัวอย่างของผลกระทบที่มีต่อภาคธุรกิจ เช่น ภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัว เห็นได้จากการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ที่ให้แก่ภาคอสังหาริมทรัพย์และ ภาคการก่อสร้างลดลงมากจาก 23.7% ณ สิ้นปี 2555 เหลือเพียง 5.1% ณ สิ้นปี 2556
รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ปี 2557 ไทยยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายเรื่องภาวะเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูงจาก ปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ การเมืองที่ยังไม่นิ่ง ความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยของสถาบันการเงิน ประกอบกับต้นทุนที่ดินและค่าก่อสร้างที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงกำลังซื้อของประชาชนที่ยังไม่ฟื้นจากค่าครองชีพและภาระหนี้ครัวเรือน ที่สูง