ไทยรุ่งกางแผนงานปี 57 ทุ่ม 500 ล้านขยายธุรกิจ พร้อมปรับแนวรุกหวนทำตลาดรถยนต์อีกระลอก เตรียมเปิดตัวทรานฟอร์เมอร์ รุ่นขับ 2 ล้อ เกียร์ออโต ขยายเครือข่ายรองรับ 10 แห่ง ตั้งเป้าขาย 300 คัน มั่นใจทั้งปีโกยยอด 3.5 พันล้านบาท
นายสมพงษ์ เผอิญโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา บริษัทมีผลการดำเนินงาน แบ่งออกเป็นรายได้ 3,375 ล้านบาท และมีผลกำไรสุทธิ 354 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็นรายได้จากการรับจ้างประกอบตัวถังรถยนต์ และพ่นสี และรับจ้างอื่นๆจำนวน 985 ล้านบาท หรือประมาณ 29% ,รายได้จากการผลิตชิ้นส่วนและผลิตแม่พิมพ์ และอุปกรณ์จับยึด 2,046 ล้านบาท หรือประมาณ 60% และรายได้จากการขายรถและบริการหลังการขาย และรายได้อื่นๆรวม 345 ล้านบาท หรือ 11%
สำหรับรายได้ในปีที่ผ่านมา ลดลง 11% เมื่อเทียบกับก่อนหน้านั้น โดยมีปัจจัยมาจากภาพรวมตลาดรถยนต์ที่หดตัวลง ขณะที่ภาพรวมตลาดรถยนต์ในปี 2557 ยังคงชะลอตัว คาดว่าตัวเลขการขายรวมจะอยู่ที่ 1.1 ล้านคัน จากแนวโน้มดังกล่าวทำบริษัทมีการปรับแผนการดำเนินงาน โดยในปีนี้จะขยับแนวรุกมาที่หน่วยธุรกิจขายรถในรุ่น ทรานฟอร์เมอร์ อย่างจริงจัง ล่าสุดได้ทำการเปิดตัวรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร เกียร์ออโต สนนราคา 1.395 ล้านบาท
"รายได้และกำไรเราลดลง เนื่องจากตลาดรถยนต์ซบเซา เป็นผลมาจากปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาการเมือง โดยธุรกิจหน่วยต่างๆได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะการรับจ้างประกอบที่ชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด เช่นเดียวกับการผลิตชิ้นส่วน ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะเติมแนวรุกในหน่วยธุรกิจการขายรถ ที่เดิมเรามีทรานฟอร์เมอร์ รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร ในรุ่นเกียร์ธรรมดา ราคา 1.485 ล้านบาท และในรุ่นเกียร์ออโต้ ราคา 1.59 ล้านบาท แต่ในปีนี้เราได้เพิ่มรุ่นขับสอง เครื่องยนต์ 2.5 ลิตรมาเพื่อเป็นทางเลือกและขยายกลุ่มเป้าหมายให้เพิ่มมากขึ้น โดยจะเจาะกลุ่มเป้าหมายในต่างจังหวัด ที่เป็นหน่วยงานอาทิ อบต.อบจ."
นายสมพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กลุ่มลูกค้ากว่า 60 % อยู่ในต่างจังหวัด ดังนั้นบริษัทจึงมีแผนงานที่จะขยายเครือข่ายไปยังภูมิภาคต่างๆประมาณ 10 แห่ง อาทิ เชียงใหม่ ,เชียงราย,ขอนแก่น,อุบลราชธานี,อุดรธานี,ระยอง,สุราษฎร์ธานี และภูเก็ต ขณะที่ในกรุงเทพฯจะมีการปรับปรุงและรีโนเวตโชว์รูมบนถนนวิภาวดีรังสิต และ ถนนเพชรเกษม
โดยบริษัทตั้งเป้าหมายการขายจำนวน 300 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่ขายได้ 80 คัน เมื่อแบ่งสัดส่วนการขายจะพบว่ากลุ่มลูกค้าที่มาจากเอกชน 80% และ 20% มาจากหน่วยงานราชการ นอกจากนั้นแล้วยังเตรียมที่จะขยายการขายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ลาว และเมียนมาร์
นายสมพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่าได้จับมือกับบริษัท KYOWA จากญี่ปุ่น จัดตั้งบริษัท KYOWA-THAIRUNG โดยใช้ทุนจดทะเบียนเบื้องต้น 20 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนการถือหุ้นคือ ไทยรุ่ง 49% ,Kyowa Sangyo 49% และ เอสบีซีเอส 1% เพื่อทำการผลิตและส่งออกรถขุดตัก,รถเครื่องจักรก่อสร้าง,รถเครื่องจักรกล เกษตร,รถแทรกเตอร์ นอกจากนั้นแล้วในอนาคตจะมีการพัฒนาสินค้ารุ่นใหม่ๆจากฐานการผลิตในไทยอีก ด้วย
"จากเดิมเรามีการรับประกอบตัวถัง ชิ้นส่วน แต่ตอนนี้เรามาทำการต่อยอด ซึ่งในอนาคตจะออกแบบและผลิต เพื่อทำการขายในประเทศ และส่งออกไปยังประเทศต่างๆ โดยในเบื้องต้นจะใช้โรงงานของไทยรุ่งเพื่อประกอบ และหลังจากนั้นจะเริ่มลงทุนสร้างโรงงานใหม่ขึ้นมารองรับ"
ขณะที่แผนงานอื่นๆบริษัทจะมีการลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในการขยายธุรกิจและปรับปรุงเครื่องจักรต่างๆ โดยคาดว่าจากแนวรุกในปีนี้ จะทำให้บริษัทมีรายได้ประมาณ 3.4 -3.5 พันล้านบาท
"การลงทุนต่างๆยังคงเดินหน้าตามแผนงานที่เคยประกาศไว้ อาทิ โรงงานชิ้นส่วนที่ระยองก็เริ่มที่จะนำเครื่องจักรต่างๆและเครื่องทำแม่พิมพ์ มาลง ส่วนโปรเจ็กต์รถดัมพ์,รถตู้คอนเทนเนอร์,รถคอนกรีต นั้นคาดว่าภายในเดือนสองเดือนนี้ก็น่าจะได้ข้อสรุป"
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,928 วันที่ 6 - 8 มีนาคม พ.ศ. 2557