กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 3.6% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3% เนื่องจากความต้องการสินค้าประเภทต่างๆปรับตัวสูงขึ้น ตั้งแต่เครื่องบินพาณิชย์ไปจนถึงเครื่องจักร ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้น
ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ไม่นับรวมอุปกรณ์ด้านการขนส่ง ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ค.
รายงานล่าสุดนี้สะท้อนให้เห็นว่า กิจกรรมด้านการผลิตและภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่ได้ชะลอตัวลงในช่วงต้นของไตรมาส 2 ปีนี้ ส่วนในช่วงก่อนหน้านี้ มาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐในเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้นแตะระดับ 52.3 เมื่อเทียบกับ 52.1 ในเดือนเม.ย. และจากข้อมูลเบื้องต้นที่รายงานไว้ที่ 51.9
ทั้งนี้ ตัวเลขที่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตของสหรัฐมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า
ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเป็นหนึ่งในข้อมูลเศรษฐกิจที่นักลงทุนจับตาดูมากที่สุด หลังจากที่เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า หากข้อมูลเศรษฐกิจที่เฟดจะได้รับในวันข้างหน้านั้นบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ไว้ ก็เป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะชะลอโครงการซื้อพันธบัตร หรือชะลอกการทำ QE ภายในปีนี้ และหากข้อมูลเศรษฐกิจยังคงออกมาสอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้ เฟดก็จะยังคงลดขนาดวงเงินซื้อพันธบัตรไปจนถึงช่วงครึ่งแรกของปีหน้า และจะสิ้นสุดโครงการซื้อพันธบัตรประมาณกลางปีหน้า