นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม
อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า
จากการติดตามสถิติมูลค่าการค้าและการส่งออกของไทยกับประเทศคู่ค้า FTA 18 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน 9 ประเทศ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย
ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เปรู ชิลี และฮ่องกง พบว่า ในปี 2564 การค้ารวมของไทยกับประเทศคู่ค้า
FTA มีมูลค่า 342,050 ล้านเหรียญสหรัฐ (10,850,467 ล้านบาท)
ขยายตัวถึง 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และการส่งออกมีมูลค่า 166,960
ล้านเหรียญสหรัฐ (5,258,642 ล้านบาท) ขยายตัว 19% ทั้งนี้ การส่งออกของไทยไปตลาด FTA
ขยายตัวได้ดีทุกตลาด ได้แก่ ชิลี (+70%) อินเดีย (+55%) นิวซีแลนด์
(+51%) เกาหลีใต้ (+38%) เปรู (+33%) จีน (+25%) ออสเตรเลีย (+11%) ญี่ปุ่น (+10%)
และฮ่องกง (+3%) ซึ่งไทยส่งออกไปอาเซียนขยายตัวสูงถึง 17% อาทิ ฟิลิปปินส์ (+40%)
มาเลเซีย (+38%) สปป.ลาว (+19%) กัมพูชา (+16%) อินโดนีเซีย (+16%) เมียนมา (+14%)
และเวียดนาม (+12%)
นางอรมน กล่าวว่า การส่งออกไปตลาด
FTA
ยังขยายตัวทุกกลุ่มสินค้า โดยในปี 2564 สินค้าเกษตรพื้นฐาน ปศุสัตว์
และประมง เป็นกลุ่มสินค้าที่ไทยมีศักยภาพในการผลิตและส่งออกสูง โดยการส่งออกไปตลาด
FTA มีมูลค่า 19,174 ล้านเหรียญสหรัฐ (602,826 ล้านบาท)
ขยายตัว 29% จากปีก่อนหน้า มีสัดส่วน 73.60% ของการส่งออกสินค้าเกษตรของไทย
สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ ยางพารา ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็ง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง
เครื่องเทศและสมุนไพร และผักสดแช่เย็นแช่แข็งและแห้ง สำหรับกลุ่มสินค้าเกษตรแปรรูป
ไทยส่งออกไปตลาด FTA มูลค่า 12,071 ล้านเหรียญสหรัฐ (380,589
ล้านบาท) ขยายตัว 9% มีสัดส่วน 62.66% ของการส่งออกสินค้าเกษตรแปรรูปของไทย
สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ อาหารสัตว์เลี้ยง ผลไม้กระป๋องและแปรรูป สิ่งปรุงรสอาหาร
และไอศกรีม ในส่วนของสินค้าอุตสาหกรรม ไทยส่งออกไปตลาด FTA มูลค่า
126,293 ล้านเหรียญสหรัฐ (3,977,231 ล้านบาท) ขยายตัว 16% มีสัดส่วน 58.58%
ของการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมของไทย สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ รถยนต์และส่วนประกอบ
คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ ผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า
“ภาพรวมการส่งออกของไทยขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง
โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ และมี FTA เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสร้างความได้เปรียบให้กับสินค้าไทย
และช่วยเพิ่มโอกาสในการส่งออก ซึ่งผู้ประกอบการควรใช้ประโยชน์จาก FTA เพิ่มแต้มต่อทางการแข่งขัน โดยปัจจุบันไทยมี FTA 14
ฉบับ กับ 18 ประเทศ และมีความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งเป็นความตกลงฉบับล่าสุดของไทย และเป็น FTA ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เป็นตลาดที่มีผู้บริโภคถึง 2,300 ล้านคน 30% ของประชากรโลก
และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา” นางอรมนเสริม
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบระหว่างปี
2564 กับปี 2535 ซึ่งเป็นปีก่อนที่ไทยจะมี FTA ฉบับแรก
(ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน)
มูลค่าการค้าและการส่งออกของไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด
โดยการค้ารวมของไทยกับประเทศคู่ FTA ขยายตัว 858%
การส่งออกไปประเทศคู่ FTA ขยายตัวถึง 1,151% นอกจากนี้
สัดส่วนการค้าของไทยกับประเทศคู่ FTA ยังเติบโตเพิ่มขึ้นถึง
63.5% และสัดส่วนการส่งออกสูงขึ้น 61.6% ซึ่งสอดคล้องกับสถิติการขอใช้สิทธิ์จาก FTA
สำหรับส่งออกไปประเทศคู่ค้าที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย
-----------------------------------
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
กระทรวงพาณิชย์
28
มกราคม 2565