นายวัชชระ ชินเศรษฐวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท
ยูไนเต็ด เปเปอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UTP ผู้ผลิตและจำหน่ายกระดาษคราฟต์
เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทวางเป้ายอดขายรวมไว้ที่ประมาณ 4,500
ล้านบาท และจะปรับเพิ่มสัดส่วนการขายกระดาษแผ่นเรียบที่ใช้ทำผิวกล่องหรือลังลูกฟูกเป็นไม่น้อยกว่า
42-45%จากสิ้นปี 2564ที่คาดว่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 40%
โดยในปัจจุบันสัดส่วนการขายของกลุ่มสินค้าดังกล่าวอยู่ในระดับที่ 36-38%
ซึ่งใกล้เคียงเป้าหมายแล้ว
*ซื้อเครื่องจักร-อัพผลิต
พร้อมกันนี้
บริษัทยังเดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
โดยเพิ่มศักยภาพเครื่องเตรียมเยื่อกระดาษ
และเตรียมงบประมาณจัดซื้อเครื่องจักรเพิ่มเติม
เพื่อรองรับความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์สิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้น
รวมถึงรองรับความต้องการใช้กล่องกระดาษที่มีแนวโน้มเพิ่มตามปริมาณโรงงานเกิดใหม่
โดยเฉพาะในพื้นที่เขต EEC
ที่เริ่มมีผู้ประกอบการย้ายฐานการผลิตเข้ามาต่อเนื่อง
เบื้องต้นคาดจะเสร็จสิ้นในช่วงไตรมาส 3/2565หนุนปริมาณการผลิตที่จะเพิ่มขึ้นกว่า
20%และเพิ่มความสามารถในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าในช่วงครึ่งหลังปี 2565 ได้เพิ่มมากขึ้น
ขณะที่ต้นทุนเศษกระดาษนั้น
ต้องยอมรับว่ามีความผันผวนในระดับสูงตามดีมานด์การใช้ที่ขยายตัว
ดังนั้นจึงปรับกลยุทธ์ในการบริหารจัดการต้นทุน
โดยบริษัทจะเน้นการเจรจาซื้อ-ขายเป็นรายเดือน
เพื่อให้การส่งต่อต้นทุนที่สูงขึ้นให้ลูกค้านั้นเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปและมีกระทบต่อบริษัทมากนัก
ทำให้มีกำไรในระดับที่เหมาะสม
*รายได้โค้งท้าย 1.2 พันล.
สำหรับภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส
4/2564คาดว่าปริมาณการขายยังคงมีการเติบโตที่ดี
ตามความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์เพื่อส่งสินค้าออก
แต่อาจไม่หวือหวามากนักเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากปลายปีมีวันหยุดยาว
ทำให้ขนส่งสินค้ามีความล่าช้า รวมถึงแนวโน้มการขายในประเทศที่ชะลอตัวลง
ทำให้บริษัทมีการปรับกลยุทธ์เน้นส่งออกมากขึ้นในสัดส่วน 10-15%
ของกำลังผลิตที่มีทั้งหมด โดยบริษัทวางเป้ายอดขายในไตรมาสสุดท้ายปีนี้ไว้ที่ราว
1,200 ล้านบาท
ดังนั้นบริษัทคาดว่ายอดขายรวมทั้งปี
2564 จะทำได้มากกว่าเป้าที่วางไว้ 4,000 ล้านบาท
หรือมียอดขายกระดาษทั้งปีเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 240,000-250,000 ตัน
จากปีก่อนที่มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 3,606.46 ล้านบาท โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี
2564 มีรายได้แล้วกว่า 3,414.73 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามความต้องการใช้งาน
“กระดาษคราฟต์” หรือ กระดาษแผ่นเรียบที่ใช้ทำผิวกล่องหรือลังลูกฟูก
โดยสินค้าดังกล่าวเป็นกลุ่มที่ให้กำไรขั้นต้น (Margin) สูง
พร้อมกันนี้บริษัทจะพยายามรักษาสัดส่วนกำไรสุทธิให้ใกล้เคียงกับปี 2563 ที่ผ่านมา
ที่ระดับ 1,011.42 ล้านบาท
*ชูปันผลสูง 4-5%
บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)
ระบุว่า UTP
ยังอยู่ในจุดที่ต้องเผชิญแรงกดดันทั้งเรื่องของดีมานด์
ชะลอตัวลงในไตรมาส
4/2564และต้นทุนเศษกระดาษโดยเฉลี่ยที่ใช้ผลิตช่วงนี้ยังไม่ได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญตามราคาตลาด
ส่งผลให้แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/2564 เป็นจุดต่ำสุดของปีนี้
(ลดลงทั้งเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน และเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนหน้า)
ทางฝ่ายปรับลดประมาณการกำไรปี 2564 ลง 6%สะท้อนภาพข้างต้น (แต่ยังคงกำไรปี 2565
ใกล้เคียงเดิม)
อย่างไรก็ดี จุดเปลี่ยนสำคัญ
แนะนำจับตาว่าต้นทุนเศษกระดาษในประเทศช่วงไตรมาส 1/2565หากยังต่ำมากๆ ต่อ
จะเป็นบวกต่อ Margin
อย่างไรก็ตาม คาด UTP จะยังคงรักษาระดับเงินปันผลปี
2564-2565 ไว้ได้ในระดับที่น่าพอใจ โดยคาดผลตอบแทนเงินปันผลราว 4-5% ต่อปี ทั้งนี้
จากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นทำให้ทางฝ่ายยังคงคำแนะนำ "ถือ"
และปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2565 ไว้ที่ 18.3 บาท (อิง PER ที่
12.4 เท่า หรือ 0.5SD สูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว)