วิกฤตซัพพลายเชนโลกยังแรงไม่หยุด
ผู้ผลิตเครื่องจักรกล (Machine Tools) ประสบภาวะขาดแคลนทั้งชิปและชิ้นส่วนสำคัญ
ขณะที่ต้นทุนโลจิสติกส์ยังสูง จนหลายรายต้องปรับขึ้นราคาแล้ว คาดว่า
ภายในต้นปีหน้าราคาเครื่องจักรจะสูงขึ้นราว 3%
สมาคมเครื่องจักรกลญี่ปุ่น (JMTBA)
รายงานว่า สถานการณ์ในตลาดแมชชีนทูลส์ปัจจุบันกำลังดีขึ้นทั่วโลก
เนื่องจากความต้องการที่ฟื้นตัวกลับมาจากปี 2020
ไปจนถึงการกระจายวัคซีนที่กระตุ้นให้โรงงานหลายแห่งกลับมาเร่งลงทุน
โดยเฉพาะความต้องการจากบริษัทนอกประเทศญี่ปุ่นที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาเดียวกันนี้เอง
ที่วิกฤตซัพพลายเชนโลกยังแรงไม่หยุด
ส่งผลให้อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลเกิดการขาดแคลนชิ้นส่วนหลายชิ้น
โดยเฉพาะชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในกลุ่มแผงวงจรและชิปเซมิคอนดักเตอร์
ไปจนถึงวัตถุดิบที่ใช้ในการผิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ซึ่งเริ่มไม่เพียงพอต่อการผลิต
นอกจากนี้ ราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น
และค่าใช้จ่ายด้านโลจิสติกส์ที่เพิมขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ไม่ว่าจะเป็าค่าเช่าตู้ขนสินค้า และค่าขนส่งทางเรือ ส่งผลให้ผู้ผลิตค่ายญี่ปุ่นไม่อาจแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้อีกต่อไป
จึงเริ่มมีการปรับราคาเครื่องจักรกันแล้ว
อีกทั้งยังเริ่มประสบปัญหาไม่สามารถผลิตเครื่องจักรกลได้ทันกำหนดจัดส่ง
เนื่องจากเกิดความล่าช้าในการจัดหาชิ้นส่วน
Mr. Yukihisa Takayama เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร
บริษัท Makino แสดงความเห็นต่อสถานการณ์ปัจจุบันในอุตสาหกรรมผลิตเครื่องจักรกล
(Machine Tools) ไว้ว่า
โดย JMTBA รายงานว่า
ผู้ผลิตเครื่องจักรที่มีแผนปรับขึ้นราคาเครื่องจักรกลมีอยู่หลายราย เช่น
Okuma ประกาศขึ้นราคาเครื่องจักร 3% ในเดือนตุลาคม 2021
Makino มีแผนขึ้นราคาเครื่องจักร 3% ในปี 2022
DMG Mori อยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าเพื่อขึ้นราคา
3% ในปี 2022
Shibaura Machine มีแผนขึ้นราคาแต่ยังไม่มีรายละเอียด
Citizen Machinery ยังไม่มีแผนขึ้นราคา
แต่ Mr. Keiichi Nakajima ประธานบริษัทยอมรับว่าหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้นเร็ว
ๆ นี้ก็อาจต้องขึ้นราคา