“ในแง่ของการใช้พลังงานไฟฟ้าในรถออฟโรด สถานการณ์ปัจจุบันถือเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านอย่างแท้จริง ซึ่งหมายความว่าเทคโนโลยีต่างๆ อยู่ร่วมกันได้ ปริมาณการใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในยังคงแข็งแกร่ง แต่ปริมาณการใช้ตะกั่ว-กรดลดลง และกำลังถูกแทนที่ด้วยลิเธียมอย่างต่อเนื่อง ในฐานะเครื่องจักรที่ใช้ลิเธียมเป็นหลัก ME Lift เป็นหนึ่งในก้าวสำคัญในการพัฒนาขีดความสามารถด้านลิเธียม ภายในเดือนแรกๆ ของการขาย ผลิตภัณฑ์รุ่นนี้ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม” จอร์แดน เธนิเยร์ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์รถยกอุตสาหกรรมระดับโลกของ Manitou Group กล่าว

โซลูชันพลังงานที่ยืดหยุ่น

ระบบแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 76.8 โวลต์ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ ME Lift นำเสนอแนวทางใหม่ในการกักเก็บพลังงาน มอบความยืดหยุ่นในการใช้งานที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับโซลูชันตะกั่ว-กรดแบบเดิม ความยืดหยุ่นนี้ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นด้วยตัวเลือกการกำหนดค่าชุดแบตเตอรี่คู่ ดังที่ Th?nier อธิบายว่า “การสามารถเลือกชุดแบตเตอรี่ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการตอบสนองความต้องการของลูกค้าและการใช้งานที่หลากหลาย ด้วยเหตุนี้ ในแต่ละรุ่น ลูกค้าของเราจึงสามารถเลือกแบตเตอรี่ได้สองแบบ ที่มีความจุตั้งแต่ 18 กิโลวัตต์ชั่วโมง ถึง 47 กิโลวัตต์ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับเครื่องจักรและคู่แบตเตอรี่ที่เลือก ความจุเริ่มต้นตั้งแต่ 3 ชั่วโมง 30 นาที ถึง 7 ชั่วโมง 20 นาที (100%-20% SoC)”

ด้วยรอบการชาร์จสูงสุด 5,000 รอบ กลยุทธ์การชาร์จของ Manitou ช่วยแก้ปัญหาหลักอย่างหนึ่งที่ OEM เผชิญเมื่อเปลี่ยนมาใช้เครื่องจักรไฟฟ้า นั่นคือระยะเวลาหยุดทำงาน กลุ่มผลิตภัณฑ์ ME Lift รองรับการชาร์จภายนอกได้สามแบบ ได้แก่ 8 กิโลวัตต์ 10 กิโลวัตต์ และ 20 กิโลวัตต์ โดยเวลาในการชาร์จตั้งแต่ 50 นาที ถึง 5.5 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดการใช้งานและความจุของแบตเตอรี่ “แบตเตอรี่ LiFePO4 ของเราได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับรถยกของเราโดยเฉพาะ มีอายุการใช้งานยาวนาน ใช้พลังงานต่ำ บำรุงรักษาง่าย และลดระยะเวลาการหยุดทำงาน ยิ่งไปกว่านั้น แบตเตอรี่เหล่านี้ยังปลอดภัย ไม่ปล่อยก๊าซพิษขณะชาร์จหรือเกิดความร้อนสะสม” เธนิเยร์กล่าวเสริม “เรามีเครื่องชาร์จในตัวและเครื่องชาร์จภายนอกสามเครื่อง ขนาดตั้งแต่ 8 กิโลวัตต์ ถึง 20 กิโลวัตต์ พร้อมข้อกำหนดด้านระบบไฟฟ้าที่แตกต่างกัน”

การขจัดห้องชาร์จเฉพาะทางยังช่วยลดอุปสรรคด้านโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญอีกด้วย “เราได้ออกแบบผลิตภัณฑ์ ME Lift ของเราโดยคำนึงถึงความยืดหยุ่นเป็นหลัก ผู้ปฏิบัติงานสามารถชาร์จเครื่องจักรได้ทุกเมื่อที่ต้องการ และนานเท่าที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นสองนาทีหรือสองชั่วโมง” เธนิเยร์กล่าวเสริม

“ปริมาณการใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในยังคงมีมาก แต่ปริมาณการใช้ตะกั่ว-กรดลดลง และกำลังถูกแทนที่ด้วยลิเธียม”

ข้อได้เปรียบด้านการออกแบบ

ขนาดที่กะทัดรัดของเทคโนโลยีลิเธียมไอออนทำให้เกิดข้อได้เปรียบด้านการออกแบบเชิงกลที่สำคัญ ชุดแบตเตอรี่มีขนาดเล็กลงสามเท่าเมื่อเทียบกับระบบตะกั่ว-กรดทั่วไป ช่วยให้การออกแบบตัวถังรถมีขนาดกะทัดรัดยิ่งขึ้น ส่งผลให้ความสามารถในการทำงานในพื้นที่แคบลง 30 เซนติเมตร ซึ่งเป็นประโยชน์ในสภาพแวดล้อมที่มีพื้นที่จำกัด

กลุ่มผลิตภัณฑ์ ME Lift ยังมีล้อให้เลือกทั้งแบบสามล้อและสี่ล้อ ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการกำหนดโซลูชันที่เหมาะสมที่สุดสำหรับความต้องการใช้งาน ยิ่งไปกว่านั้น ความสูงในการยกสูงสุดที่ 6.5 เมตร ช่วยให้มั่นใจได้ว่าสามารถใช้งานร่วมกับระบบคลังสินค้าและระบบจัดเก็บสินค้าอุตสาหกรรมมาตรฐานได้ ขณะเดียวกันก็ยังคงความคล่องตัวของการออกแบบที่กะทัดรัดของเครื่อง

ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น

ระบบลากจูงแบบบูรณาการมอบพลังขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งแม้ในสภาวะการทำงานที่ท้าทาย ช่วยแก้ปัญหาทั่วไปเกี่ยวกับประสิทธิภาพของรถยกไฟฟ้าในการใช้งานอุตสาหกรรมที่มีความต้องการสูง มอเตอร์ปั๊มไฮดรอลิกเฉพาะช่วยเพิ่มความเร็วในการยก ในขณะที่การลดเสียงรบกวนถือเป็นข้อดีอีกประการหนึ่ง โดย ME Lift ทุกรุ่นทำงานต่ำกว่า 70 เดซิเบล (A) ระดับประสิทธิภาพนี้รองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ไวต่อเสียงรบกวน และช่วยเพิ่มความสะดวกสบายของผู้ปฏิบัติงานอย่างมากในระหว่างการทำงานเป็นเวลานาน

สิ่งที่ผู้ปฏิบัติงานให้ความสำคัญ

ความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานและสภาพแวดล้อมยังคงเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกสำหรับ Manitou รถยก ME Lift มาพร้อมมาตรฐานล่าสุด มอบการปกป้องที่เหนือกว่าสำหรับผู้ปฏิบัติงานขณะเลี้ยวโค้งหรือขณะยกของ ด้วยห้องโดยสารที่ทนทานต่อน้ำหนักตก รถยก ME Lift มาพร้อมไฟ LED และไฟทำงานครบครัน เพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจน นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มไฟสีน้ำเงิน ไฟทำงานเสริม และเส้นเตือนสีแดงรอบเครื่องจักรเพื่อความปลอดภัยของคนเดินเท้า จอแสดงผล LCD แบบรวมศูนย์ที่พัฒนาต่อยอดจากรุ่นที่มีอยู่เดิม เช่น MT 625e telehandler ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานเข้าถึงข้อมูลสำคัญของเครื่องจักรได้อย่างง่ายดายในที่เดียว

เครื่อง ME Lift ทุกเครื่องได้รับมาตรฐาน IPX4 จึงสามารถกันฝนได้ จึงมั่นใจได้ถึงการทำงานที่เชื่อถือได้ในทุกสภาพอากาศ เบรกจอดรถไฟฟ้าที่ใช้งานง่ายช่วยให้มั่นใจได้ว่าเครื่องจะยังคงมีเสถียรภาพบนทางลาดและทางลาด ป้องกันการเคลื่อนที่โดยไม่ได้ตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ ฉนวนกันเสียงได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างมาก โดยลดเสียงรบกวนลง 6 เดซิเบล (A) เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า รุ่นใหม่นี้ยังมอบความสะดวกสบายที่มากขึ้นด้วยการเพิ่มเบาะนั่งแบบแขวนและห้องโดยสารอุ่นเสริม

“ตั้งแต่กระจกหลังคาแบบพาโนรามา เบรกจอดรถไฟฟ้า ระบบหยุดรถขณะเข้าโค้ง ระบบลดความเร็วในโค้ง และเบาะนั่งแบบ Grammer ไปจนถึงบันไดเลื่อนแบบง่าย มือจับด้านหลังพร้อมแตร คอพวงมาลัยปรับได้ และห้องโดยสารที่กว้างขวาง เสาหลักของ ME Lift ซึ่งติดตั้งตั้งแต่เริ่มต้นการพัฒนาจนถึงการผลิต ล้วนแต่เป็นคุณสมบัติด้านความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และผสานรวมเข้าด้วยกัน” เธนิเยร์กล่าว

“ผู้ใช้งานสามารถชาร์จเครื่องจักรได้ทุกเมื่อที่ต้องการ นานเท่าที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นสองนาทีหรือสองชั่วโมงก็ตาม”

ขับเคลื่อนระบบไฟฟ้าไปข้างหน้า

เมื่อมองไปข้างหน้า เธนิเยร์เน้นย้ำว่าการเปิดตัวรถยก ME Lift จะช่วยปูทางไปสู่เครื่องจักรไฟฟ้าในอนาคตจาก Manitou “การนำรถยกไฟฟ้ารุ่นใหม่ของเรามาใช้เป็นหนึ่งในภารกิจหลักของ Manitou Group หลังจากการประกาศแผนงานเชิงกลยุทธ์ฉบับใหม่ของเราเมื่อเร็วๆ นี้” เขากล่าว “เรายังเชื่อว่าการปรับปรุงเครื่องจักรมีศักยภาพสูง นั่นคือเหตุผลที่เรากำลังทดสอบรถยกเทเลแฮนด์เลอร์ในพื้นที่ก่อสร้าง ทุกรุ่นได้รับการพัฒนาให้มีศักยภาพในการใช้พลังงานไฟฟ้า การพัฒนาจะเกิดขึ้นตามความพร้อมของพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่แตกต่างกันและความต้องการของลูกค้า แน่นอนว่าการเปิดตัว ME Lift ที่ประสบความสำเร็จจะช่วยสนับสนุนเครื่องจักรในอนาคต”