เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2021 รอยเตอร์ได้จัดทำรายงานความเคลื่อนไหวของผู้ผลิตเครื่องจักรกล
อุปกรณ์โรงงาน หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติต่อการบูมของรถยนต์ไฟฟ้า
เปรียบเทียบว่ารถยนต์ไฟฟ้าก็เหมือน “ยุคตื่นทอง (Gold Rush)”
คลื่นอีวี กระตุ้นการลงทุนเครื่องจักร หุ่นยนต์ และอุปกรณ์โรงงาน
สำนักงานสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐอเมริกา (USCB) เปิดเผยว่า
นับตั้งแต่การระบาดของโควิด การลงทุนเครื่องจักร หุ่นยนต์
และระบบอัตโนมัติของอุตสาหกรรมการผลิตสหรัฐอเมริกาลดลงถึงจุดต่ำสุดที่ 361.8
ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนเมษายน 2020 แต่ได้ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและมั่นคง
จนกลับมาอยู่ที่ 506 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนมิถุนายน 2021
ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าก่อนการระบาดของโควิด
สะท้อนให้เห็นถึงการลงทุนที่เพิ่มขึ้น
โดยตัวเลขนี้
เป็นผลมาจากการรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งเป็นคลื่นลูกใหม่ในอุตสาหกรรมยานยนต์
โดยมีนักลงทุนหลายรายได้เข้าลงทุนในสตาร์ทอัพอีวีจำนวนมากจากความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น
Andrew Lloyd หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า
บริษัท Comau ซึ่งอยู่ในเครือ Stellantis ให้สัมภาษณ์ว่า
“ผมไม่แน่ใจว่าการลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้ามาถึงจุดสูงสุดแล้วหรือยัง
แต่ผมมั่นใจว่ามีพื้นที่ให้ลงทุนอีกมาก และจะมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างยิ่งใน 18
- 24 เดือนข้างหน้านี้”
โดยคลื่นอีวีบูมในครั้งนี้
มีสาเหตุหลักอีกเรื่องนอกจากมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม คือ ความสำเร็จของเทสล่า ซึ่งกลายเป็นบริษัทรถยนต์มูลค่าสูงที่สุดในโลกแซง Toyota ในปีที่แล้ว และมีมูลค่าแซงหน้า Facebook ได้สำเร็จในต้นปี
2021 นี้
LMC
Automotive ผู้ให้บริการด้านสถิติและตัวเลขในอุตสาหกรรมยานยนต์จากสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า ในช่วงปี 2019 - 2025 อุตสาหกรรมยานยนต์อเมริกาเหนือจะมีการลงทุนรวม
3.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่ง 77% ของมูลค่าการลงทุนจะเป็นการลงทุนในโครงการรถยนต์ไฟฟ้า
และคาดว่าจะมีมีโรงงานในสหรัฐอเมริกาเปิดใหม่ 15 โรงงาน
John Kacsur รองประธานฝ่ายยานยนต์และล้อรถจากบริษัท
Rockwell Automation เล่าว่า
ปัจจุบันภาคอุตสาหกรรมมีการแข่งขันเพื่อแย่งส่วนแบ่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างดุเดือด
Laurie Harbour ประธานบริษัท
Harbour Results ที่ปรึกษาด้านอุตสาหกรรม รายงานว่า ในช่วงปี
2021 - 2023 มีการลงนามระหว่างค่ายรถและซัพพลายเออร์แล้ว 37
ฉบับ
ซึ่งทั้งหมดนี้ยังไม่รวมการลงนามสำหรับยานยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป
Mathias Christen โฆษกของ D?rr
AG ผู้เชี่ยวชาญด้านการพ่นและเคลือบสี
เปิดเผยว่าปัจจุบันมีโครงการจากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหม่อีกมาก
ส่งผลให้บริษัทมีการเติบโตของธุรกิจในปีที่ผ่านมาถึง 65%
Kuka
AG รายงานว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2021 บริษัทมียอดสั่งซื้อหุ่นยนต์มากถึง
2.23 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปี 2020
ถึง 52% ซึ่งเป็นช่วง 6 เดือนที่มียอดสั่งซื้อสูงสุดเป็นอันดับ
2 นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท โดยมียอดสั่งซื้อหลักมาจากอเมริกาเหนือ
และเอเชีย
Mike
LaRose CEO บริษัท KUKA Systems North America เปิดเผยว่า บริษัทได้รับยอดสั่งซื้อมากจนไม่อาจรับงานเพิ่มได้ตั้งแต่ 1
ปีครึ่งที่ผ่านมา
โดยทั่วไป ผู้ผลิตยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์
และแบตเตอรี่จะสั่งซื้อเครื่องจักรกลสำหรับการผลิตล่วงหน้าเป็นเวลา 18 เดือน ซึ่ง
Neil Dueweke รองประธานฝ่ายยานยนต์จาก FANUC America กล่าวว่า
รถยนต์ไฟฟ้าก็เหมือน “Amazon Effect” ซึ่งหมายถึงมีการเติบโตที่ส่งผลต่อต่ออุตสาหกรรมในหลายมิติ
ทำให้ทางบริษัทต้องสร้างคลังเก็บหุ่นยนต์มากกว่า 5,000 ตัวในปีที่แล้ว
และแสดงความเห็นว่า
“ไม่ช้าก็เร็ว
ผู้ผลิตจะต้องการเครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในที่สุด”
ผลกระทบจากโควิดต่อแนวโน้มความต้องการเครื่องจักร
R.J. Scaringe CEO บริษัท Rivian
สตาร์ทอัพด้านรถยนต์ไฟฟ้า
เปิดเผยว่าบริษัทได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิดเป็นอย่างมาก ทั้งการก่อสร้าง
การติดตั้งเครื่องจักร และการซัพพลายชิ้นส่วนยานยนต์
ในทางกลับกัน เจเนรัล มอเตอร์ส (General Motors) เผิดเผยว่าบริษัทไม่ประสบปัญหาการจัดส่งอุปกรณ์โรงงานล่าช้าแต่อย่างใด
อีกสิ่งที่น่ากังวล คือการขาดแคลนแรงงานจากการระบาดของโควิด
ซึ่งแม้ว่าการลงทุนรถยนต์ไฟฟ้าจะทำให้เกิดความต้องการเครื่องจักร
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผู้ผลิตเครื่องจักรจะสามารถตอบรับความต้องการได้ในทันที
โดยเฉพาะในยุคที่กำลังเกิดปัญหาทั้งวิกฤตชิปขาดตลาด, ปัญหาซัพพลายเชน, และปัญหาวัตถุดิบราคาแพงเช่นนี้
ความต้องการเครื่องจักรสำหรับผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทยจะเป็นอย่างไร?
จุดที่แตกต่างจากสหรัฐอเมริกา คือ ความคึกคักของตลาด
เนื่องจากประเทศไทยมีสตาร์ทอัพด้านรถยนต์อยู่ไม่มาก เช่น MINE Mobility Research และแพลตฟอร์มการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่
ปตท. จับมือ ฟ็อกซ์คอนน์
นอกจากนี้ ในไทยเองยังมีโรงงานผลิตยานยนต์
และชิ้นส่วนยานยนต์อีกมาก อีกทั้งยังมีแผนยุทธศาสตร์ส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศ ทำให้คาดการณ์ได้ว่า ความต้องการเครื่องจักรกล อุปกรณ์โรงงาน
และระบบอัตโนมัติในไทยก็อาจเพิ่มขึ้นได้เช่นเดียวกัน
ที่มา : M Report