ยิ่งในสถานการณ์โควิด-19 ปัญหาขยะพลาสติกยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น
เนื่องจากคนทั่วโลกมีความจำเป็นและความต้องการซื้อหน้ากากอนามัย
รวมถึงอุปกรณ์ในการดูแลป้องกันสุขภาพตัวเอง ส่งผลให้ การใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก
และพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งเพิ่มมากขึ้น
ส่วนบ้านเรา
สถาบันสิ่งแวดล้อมไทยรายงาน สถานการณ์โควิด-19 ทำให้ปริมาณขยะพลาสติกในกรุงเทพฯเพิ่มขึ้นถึง
60% และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากเดิมไทยมีการสร้างขยะพลาสติกปีละกว่า 2,000 ล้านกิโลกรัม
แต่กลับมีการนำไปรีไซเคิลเพียงแค่ไม่ถึง 10% แล้วเราจะมีวิธีการใดจัด
การกับพลาสติกเหล่านี้ โดยที่ไม่ก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม
หรือก่อผลกระทบน้อยที่สุด
“เราในฐานะหน่วยงานภาคเอกชนที่มุ่งเน้นการช่วยเหลือสังคมให้มีสิ่งแวดล้อมที่ดีในทุกมิติ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการช่วยลดปัญหาขยะพลาสติกที่ไม่มีการทำลายตามกระบวนการอย่างเหมาะสม
เราจึงให้ความสำคัญในส่วนนี้พร้อมเดินหน้าสร้างภาคีเครือข่ายกับหน่วยงานทุกภาคส่วน
ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน คิดค้นนวัตกรรมใหม่ เทคโนโลยีไพโรไลซิส
เปลี่ยนขยะพลาสติกให้เป็นน้ำมันชีวภาพขั้นสูง
ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเชื้อเพลิงทางเลือกที่เป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อม”
นายยูสซี เว็คโค
ซาโลรานตา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
คอร์สแอร์ กรุ๊ป อินเตอร์เนชั่นแนล
ผู้พัฒนาโซลูชันธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อมซึ่งมีฐานการดำเนินงานทั้งในประเทศไทยและเนเธอร์แลนด์
พูดถึงนวัตกรรมใหม่ที่จะช่วยลดขยะพลาสติกได้ 100% เปลี่ยนสภาพของขยะพลาสติก ให้กลับไปเป็นน้ำมันในรูปแบบของเหลว
เริ่มจากกระบวนการลำเลียงขยะพลาสติกลงในเครื่องนวัตกรรมไพโรไลซิส (Pyrolysis
Machine) สามารถรองรับขยะพลาสติกทุกประเภท
โดยเฉพาะกับกลุ่มที่ย่อยสลายได้ยาก จึงมักนำไปฝังกลบหลังใช้งาน อาทิ ถุงพลาสติก
พลาสติกห่อหุ้ม บรรจุภัณฑ์พลาสติก
จากนั้นเครื่องจะให้ความร้อนต่อขยะพลาสติกที่ถูกใส่ไปในเครื่องเพื่อให้เกิดควันและก๊าซ
โดยขั้นตอนนี้ไม่ใช่การเผา แต่เป็นการใช้ความร้อนเพื่อย่อยสลาย
จึงทำให้ไม่เกิดไอพิษลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ก๊าซไวไฟที่ได้ในขั้นตอนนี้
จะถูกรวบรวมและนำไปใช้เพื่อสร้างความร้อนในขั้นตอนการแปรสภาพขยะพลาสติกต่อไป ส่วนควันที่เกิดขึ้นจะลอยผ่านระบบกลั่น และเปลี่ยนเป็นของเหลว
เป็นพลังงานหรือน้ำมันชีวภาพที่ค่อนข้างสะอาดเพราะมีกำมะถันต่ำ
ปัจจุบันน้ำมันชีวภาพขั้นสูงบางส่วนที่ผลิตได้
ถูกหมุนเวียนนำกลับมาใช้เป็นแหล่งพลังงานให้กับเครื่องนวัตกรรมไพโรไลซิสอีกครั้ง แต่ในอนาคตสามารถนำน้ำมันชนิดนี้ไปใช้กับเครื่องบิน
และไม่เกินสิ้นปีนี้จะขยายการนำไปสู่การ ใช้ในภาคเกษตร โดยเฉพาะเครื่องจักรกลการเกษตร รถไถ เครื่องตัดหญ้า
เครื่องสูบน้ำ เพราะการใช้น้ำมัน กำมะถันต่ำ ถือเป็นการลดต้นทุนค่าเชื้อเพลิง
และค่าสึกหรอของอุปกรณ์ได้อีกทางหนึ่ง
ขณะเดียวกันก่อมลพิษก็ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับน้ำมันทั่วไป
ทั้งนี้ โรงงานรีไซเคิลขยะพลาสติกให้กลายเป็นน้ำมันของคอร์สแอร์มีเนื้อที่ 6,400
ตารางเมตร ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ปัจจุบันมีกำลังการผลิตเดือนละ 200,000
ลิตร
และในปี 2565 โรงงานจะขยายเนื้อที่เพิ่มอีก 10,000
ตารางเมตร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการผลิตให้ได้มากกว่าเดือนละ 1,000,000
ลิตร สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.corsairnow.com