หากจะพูดถึง ประสบการณ์ของบริษัทที่ผลิตสมุนไพรไทยต่างๆและเป็นผู้มีประสบการณ์ในด้านการปลูกสมุนไพรเฉพาะกลุ่มอาทิเช่น กัญชากัญชงในประเทศไทย คือ บริษัท ทีเอชซีจี กรุ๊ป จำกัด ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาสายพันธุ์ การเพาะเมล็ด ด้วยกรรมวิธีการปลูกในระบบออร์แกนิค การสกัดสารสำคัญ รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในทุกอุตสาหกรรม ไม่เพียงเท่านี้ ทาง "ทีเอชซีจี" ยังเตรียมลู่ทางในการขยายตลาด พัฒนาสินค้าครอบคลุมไปถึงสมุนไพรไทยให้เป็นที่ยอมรับสู่ตลาดสากลอีกด้วย
การที่จะเข้าไปสู่ตลาดสากลนั้น จำเป็นอย่างมาก ที่ต้องหาแนวร่วม เพื่อผนึกกำลังสร้างความแข็งแกร่ง ซึ่งล่าสุดได้ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจรายใหญ่ "เอนโดก้า" (ENDOCA) จากประเทศเดนมาร์ก ซึ่งได้สิทธิ์ในการจำหน่ายสินค้าทุกชนิดในเอเซียแต่เพียงผู้เดียว โดยความร่วมมือทั้งสองฝ่ายมุ่งหวังสร้างเครือข่ายวางฐานการปลูกในระบบออร์แกนิค การสกัด และการผลิตสินค้าที่ตรงตามมาตรฐาน แบรนด์ "เอนโดก้า" (ENDOCA) ขึ้นในประเทศไทย เพื่อส่งออกสู่ตลาดโลกโดยในระยะแรกจะเริ่มทำการผลิต ผลิตภัณฑ์ แบรนด์ "เอนโดก้า" (ENDOCA) เพื่อป้อนสู่ตลาดในประเทศและเป็นฐานผลิตเพื่อส่งออกไปยังตลาดญี่ปุ่น ทั้งนี้ในระยะต่อไปก็จะขยายตลาดไปยังประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ที่มีการปลดล็อกกฎหมายควบคุมผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของสารสกัดซีบีดี (CBD) ในอนาคต นอกจากนี้ความร่วมมือทั้งสองฝ่าย ยังมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสารสกัดสมุนไพรไทยชนิดอื่นๆ เพื่อจำหน่ายไปสู่ตลาดโลกอีกด้วยเช่นกัน
มิสเตอร์ ฮิเดโตชิ อูเมกิ ซีอีโอ บริษัท เอนโดก้า สยาม จำกัด (Mr.HIDETOSHI UMEKI Director, CEO Endoca Siam Co.,Ltd.) เปิดเผยว่า "เอนโดก้า" (ENDOCA) เป็นบริษัทจากประเทศเดนมาร์กโดยเป็นแบรนด์ชั้นนำ ภายใต้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัด CBD ที่มีชื่อเสียงในตลาดสหรัฐอเมริกา ยุโรป และออสเตรเลีย "เอนโดก้า" (ENDOCA) ได้รุกตลาดสุขภาพญี่ปุ่นจนประสบความสำเร็จ ทำให้แบรนด์ CBD "เอนโดก้า" (ENDOCA) ขายดีเป็นอันดับ 1 ในญี่ปุ่น มีวางจำหน่ายในห้างอิเซตัน และห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น อีกกว่า 36 แห่ง และการขยายธุรกิจสู่ประเทศไทยนั้น บริษัท เอนโดก้า สยาม จำกัด หรือ "อีดีซีเอส" ได้จับมือกับบริษัท ทีเอชซีจี กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในด้านผลิตภัณฑ์จากสารสกัดสมุนไพรไทยต่างๆ โดยเฉพาะสมุนไพรกลุ่มกัญชา กัญชง และมีผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์ในด้านการปลูกกัญชา กัญชงในประเทศไทยด้วยระบบออร์แกนิค โดยที่หลังจากประเทศไทยได้มีการปลดล็อกพืชกัญชา กัญชง พ้นจากบัญชียาเสพติดให้เป็นพืชสมุนไพรเมื่อปีที่แล้ว "เอนโดก้า" (ENDOCA) ได้เล็งเห็นการสร้างฐานการผลิต CBD ในเมืองไทยเพื่อป้อนตลาดเอเชีย
ทางด้านประธานกรรมการบริหาร คุณอรพินทร์ พญาพิทักษ์สกุล บริษัท ทีเอชซีจี กรุ๊ป จำกัด (THCG Group) เปิดเผยว่า "บริษัท ทีเอชซีจี กรุ๊ป จำกัด (THCG Group) เราดีใจและภูมิใจมากที่ "เอนโดก้า" (ENDOCA) เลือกเรา จับมือกับเราเป็นพันธมิตร มองเห็นศักยภาพความชำนาญด้านการปลูกพืชสมุนไพรแบบออร์แกนิคของทีเอชซีจี กรุ๊ป (THCG Group) โดยเฉพาะพืชสมุนไพรกัญชา กัญชง เราก็ปลูกด้วยระบบออร์แกนิค เราได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP และล่าสุดได้รับการรับรองมาตรฐานออร์แกนิคไทยแลนด์ เป็นการการันตีผลักดันเพิ่มศักยภาพทำมาตรฐานยกระดับต่อไปเพื่อให้ญี่ปุ่นยอมรับเราให้ได้ ด้านความร่วมมือกับ "เอนโดก้า" (ENDOCA) ถือว่าเป็นความร่วมมือในมิติที่ใหญ่มากของธุรกิจอุตสาหกรรมกัญชา กัญชง ในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศไทยเอง ซึ่งญี่ปุ่นยังเห็นความสำคัญในการต่อยอดตลาดสมุนไพรออร์แกนิค ที่มีคุณภาพ ศักยภาพเด่นๆ อีกหลายอย่าง เพื่อนำไปดูแลด้านสุขภาพที่เป็นออร์แกนิคจริงๆ อาจมีเวลเนส ในประเทศไทย โดยในอนาคตจะมีการต่อยอดธุรกิจทั้งสองฝ่ายที่จะนำสมุนไพรไทยไปจำหน่ายสู่ตลาดโลก โดยทั้งสองบริษัทยังคงเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่นพัฒนาการปลูกด้วยวิธีแบบออร์แกนิคเพื่อเป็นการดูแลสุขภาพในแนวทางที่ยั่งยืน