กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)
ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจเอเชียในปีนี้
(2564) รวมทั้งไทย เตือนการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน
และแรงกดดันจากเงินเฟ้อ จะสร้างความเสี่ยงในช่วงขาลงต่อแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเอเชีย
ใน รายงาน Regional
economic outlook : Asia and Pacific ที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้
(19 ต.ค.) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่า
เศรษฐกิจเอเชีย จะมีการขยายตัวเพียง 6.5% ในปีนี้
ต่ำกว่าตัวเลขในเดือนเม.ย.ที่คาดการณ์ไว้ในระดับ 7.6%
อย่างไรก็ดี IMF
ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจของเอเชียในปีหน้าสู่ระดับ 5.7%
จากเดิมที่ระดับ 5.3% โดยระบุถึงความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนโควิด-19
ในวงกว้างเป็นเหตุผลที่สำคัญ
ส่วน ประเทศไทย นั้น IMF
ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ทางเศรษฐกิจเช่นกัน โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะมีการขยายตัวเพียง
1.0% ในปีนี้ (2564) และ 4.5% ในปีหน้า (2565)
ซึ่งเป็นการปรับลดจากที่เคยคาดไว้ในเดือนเม.ย. ที่ระดับ 2.6% และ 5.7%
ตามลำดับ
ขณะเดียวกัน IMF
คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะมีการขยายตัว 8.0% และ 5.6% ในปีนี้และปีหน้าตามลำดับ แต่เตือนว่าการฟื้นตัวยังมีความไม่สมดุล
ขณะที่การแพร่ระบาดของโควิด-19
และการคุมเข้มทางการคลังเป็นปัจจัยส่งผลกระทบต่อการบริโภค
นอกจากนี้ IMF
เตือนว่าการกลับมาใช้นโยบายการเงินแบบปกติของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา
(เฟด) อาจทำให้เกิดกระแสเงินทุนไหลออกจากกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย
และทำให้อัตราดอกเบี้ยดีดตัวสูงขึ้น ขณะที่ 5
ประเทศในกลุ่มอาเซียน ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์
ยังคงเผชิญความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบใหม่
และการบริโภคในภาคบริการที่อ่อนแอ
ก่อนหน้านี้ IMF
ได้เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลก
ว่าจะมีการขยายตัวที่ระดับเพียง 5.9% ในปีนี้
ซึ่งเป็นการปรับลดจากเดิมที่คาดไว้ 6.0% ในเดือน ก.ค.
เหตุจากปัญหาคอขวดซัพพลายเชนที่กระทบการฟื้นตัว อย่างไรก็ดี IMF ยังคงตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีหน้า (2565) ไว้ว่าจะขยายตัวที่
4.9%
ทั้งนี้ IMF ระบุใน รายงาน
World Economic Outlook ว่า
ปัญหาด้านซัพพลายเชนนั้นเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
ซึ่งแม้ IMF จะปรับลดตัวเลขคาดการณ์เพียงเล็กน้อยในภาพรวมทั่วโลก
แต่สำหรับบางประเทศนั้น การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้แนวโน้มของประเทศเหล่านี้มืดมนมาก
ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่มีรายได้ต่ำ
ในรายงานฉบับดังกล่าว
IMF ยังเปิดเผยว่า
การที่ประเทศร่ำรวยกักตุนสินค้าไว้เยอะมากทำให้ราคาสินค้าปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย
ซึ่งจะทำให้เงินเฟ้อขยับขึ้นแรง IMF คาดการณ์ว่า
ในปีหน้า (2565) เงินเฟ้อน่าจะกลับมาอยู่ในระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19