เอกชนแนะ ธปท.ลดอกเบี้ยนโยบายลง กระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมดูแลเงินบาทที่แข็งค่า ย้ำต้องการเงินบาทมีเสถียรภาพ 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ “กกร.”นัด 11 ก.ค.นี้ทบทวนตัวเลขส่งออก-จีดีพีทั้งหมด รับต่ำกว่าเดิมแน่นอน จี้รัฐบาลใหม่อัดฉีดเม็ดเงินให้คนมีกำลังซื้อ-เพิ่มราคาสินค้าเกษตร-บูมท่องเที่ยว
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ภาคเอกชนต้องการให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ช่วยสนับสนุนภาคเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตได้ดียิ่งขึ้นด้วยการพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก แม้ที่ผ่านมาคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ เพราะเศรษฐกิจไทย นอกจากส่งออกไม่ดี เศรษฐกิจระดับรากหญ้าไม่ดี
สำหรับสถานการณ์ส่งออกที่เป็นเครื่องจักรขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยยังไม่ดีนัก การส่งออกในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา(ม.ค.-พ.ค.)ติดลบ ขณะที่เงินบาทแข็งค่าเร็วมาก ภาคเอกชนต้องการให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาดูแลปัญหาค่าเงินบาทที่ขณะนี้แข็งค่าต่อเนื่องจนอยู่ในระดับต่ำกว่า 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯมานานเกือบ 1 ปีแล้ว เนื่องจากมีเงินไหลเข้าไทยมากพอสมควรจากการที่สหรัฐฯมีนโบบายปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก และรัฐบาลไทยมีโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอีกมาก
โดยในส่วนภาคเอกชนประเด็นสำคัญที่สุดคือ ต้องการเห็นเงินบาทมีเสถียรภาพ โดยต้องการให้เงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงประมาณ 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เปลี่ยนแปลงได้เล็กน้อย ดังนั้นในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร.ในวันที่ 10 ก.ค.นี้จะมีการพิจารณาทบทวนประมาณการเศรษฐกิจใหม่ทั้งการส่งออก ประมาณการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย(GDP) ซึ่งการประเมินใหม่มีแนวโน้มว่าตัวเลขต้องปรับลดลง
สำหรับมาตรการเร่งด่วนที่รัฐบาลควรเข้ามาช่วยด้านเศรษฐกิจคือ มาตรการช่วยให้ประชาชนมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น มาตรการช่วยเหลือยกระดับราคาสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น ด้านการท่องเที่ยวขณะนี้ได้รับผลกระทบจากเงินบาทที่แข็งค่าจำนวนนักท่องเที่ยวชะลอเล็กน้อย อย่างไรก็ตามอุตสาหกรรมท่องเที่ยวยังเป็นความหวังที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยต่อไป อีกทั้งด้านการเมืองไทย ภาคเอกชนต้องการเห็นการจัดตั้งรัฐบาลที่เร็วกว่านี้