นายณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม หรือ MPI เดือนพฤษภาคม 2562 ว่า MPI อยู่ที่ระดับ 103.68 ปรับตัวลดลง 3.99% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา แต่ขยายตัวเพิ่มขึ้น 8.63% เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2562 ทำให้ MPI ช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา (พฤศจิกายน 2561-พฤษภาคม 2562) หดตัวลง 0.63% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาส่งผลให้ MPI เฉลี่ย 5 เดือน (มกราคม-พฤษภาคม 2562) ติดลบ 1.26% ส่วนเป้าหมาย MPI ทั้งปี 2562 คาดว่าจะโต 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ปรับใหม่เมื่อเดือนเมษายน 2562 ปรับลดลงจากเป้าหมายเดิมที่คาดว่า จะโต 2.5% ส่วนจีดีพีอุตสาหกรรมปีนี้เป้าหมายปรับใหม่เดือนเมษายน 2562 อยู่ที่โต 1.5-2.5% ปรับลดจากเป้าเดิมที่คาดว่าจะโต 2-3% ในปีนี้
ปัจจัยที่กระทบ MPI คือ ความต้องการบริโภคภายในประเทศและคำสั่งซื้อจากต่างประเทศชะลอตัว ซึ่งเป็นผลจากแนวโน้มการส่งออกโลกชะลอลงอย่างต่อเนื่องจากสงครามการค้าที่ส่งผลให้การส่งออกโลกลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2561 ถึงเมษายน 2562 มูลค่าการส่งออกโลกหดตัวลง 1.01% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน
อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลลบต่อ MPI เดือนพฤษภาคม 2562 ได้แก่ ปุ๋ยเคมียอดขายลดลงจากภัยแล้ง การลดปลูกข้าวนาปรัง และผลจากการที่เกษตรกรลดใช้ปุ๋ยและการเสียตลาดจากการแข่งขันของปุ๋ยจากจีนในตลาดกัมพูชา ลาว และเวียดนาม นอกจากนี้ การผลิตรถยนต์และ
เครื่องยนต์ลดลง มียอดผลิตรวม 181,338 คัน หดตัวลง 6.11% มาจากยอดส่งออกลดลง 3.58% ขณะที่ยอดขายภายในประเทศยังขยายตัว 3.7% ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องประดับแท้ และ Hard Disk Drive ขณะที่อุตสาหกรรมสำคัญที่ส่งผลบวกต่อ MPI ได้แก่ เครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วน น้ำมันปาล์ม เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และน้ำดื่ม เบียร์
ประเด็นสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการผลิตเดือนมิถุนายน 2562 ได้แก่ การชะลอตัวของเศรษฐกิจและการค้าโลกจากการดำเนินมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐที่มีต่อจีน ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องเฝ้าระวังและติดตามอย่างใกล้ชิด และมูลค่าการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบหลักของเดือนพฤษภาคม 2562 ติดลบ 2.3% เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน อาจส่งผลต่อ MPI ในช่วงเวลาข้างหน้า ซึ่งมีแนวโน้มที่ MPI เดือนมิถุนายน 2562 จะติดลบได้