สำนักงานนโยบาย และยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย หรือตัวเลขส่งออกประจำเดือนมกราคม 2562
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพรผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กล่าวว่า การส่งออกของไทยในเดือนมกราคม มีมูลค่า 18,994 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวที่ร้อยละ 5.7 โดยได้รับแรงกดดันจากภาวะการค้าโลกชะลอตัว และอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าชะงักงัน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากประเด็นข้อพิพาททางการค้าที่ยังคงยืดเยื้อทำให้ชะลอคำสั่งซื้อ
“ตัวเลขการส่งออกเดือนมกราคม ซึ่งเป็นเดือนแรกของปีนี้ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 โดยสาเหตุสำคัญมาจากความกังวลเกี่ยวกับความไม่ชัดเจนการตอบโต้ไป-มาสงครามการค้าสหรัฐกับจีนที่ยังไม่รู้ว่าจะจบลงอย่างไร สร้างความกดดันให้การค้าการส่งออกทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยส่งออกติดลบอย่างต่อเนื่องและอาจจะลดลงไปถึงทั้งไตรมาสแรกนี้” น.ส.พิมพ์ชนก กล่าว
น.ส.พิมพ์ชนกกล่าวว่า สำหรับภาพรวมการส่งออกในปี 2562 คาดว่ายังเผชิญความเสี่ยงจาก 4 ปัจจัยหลัก คือ 1.การชะลอตัวของอุปสงค์ต่างประเทศ 2.ราคาสินค้าโภคภัณฑ์โดยเฉพาะราคาสินค้าเกษตร มีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากอุปทานและสต๊อกล้นตลาดกดดันรายได้การส่งออกของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (EmergingMarkets) รวมถึงไทย 3.แนวโน้มการแข็งค่าของเงินบาท กดดันรายได้ของผู้ส่งออก อย่างไรก็ตาม ค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นไม่มากนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ จะยังทำให้ไทยรักษาความสามารถทางแข่งขันไว้ได้
4.ข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐ และจีน ที่ยังคงกดดันบรรยากาศการค้าการลงทุนโลก โดยประกาศทางการของทั้งสองฝ่ายระบุว่าการเจรจาเป็นไปในทิศทางที่ดี มีการบรรลุหลักการในประเด็นสำคัญ โดยจะมีการประชุมระดับรัฐมนตรีติดตามความคืบหน้าการเจรจาอีกครั้งในวันที่ 21-22 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ทั้งนี้ หลายฝ่ายคาดว่าทั้งสองประเทศจะลงนามบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding) ระหว่างกันภายหลังการเจรจา และมีความเป็นไปได้ว่าสหรัฐ อาจยืดเวลาการขึ้นภาษี 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ออกไปจากกำหนดเดิมในวันที่ 1 มีนาคม 2562
น.ส.พิมพ์ชนก กล่าวว่า สำหรับตัวเลขส่งออกปีนี้กระทรวงพาณิชย์ได้คาดการณ์ไว้ว่าการส่งออกปีนี้น่าจะเป็นบวกไม่น้อยกว่าร้อยละ 8 แต่ล่าสุดขอติดตามสถานการณ์ภาพรวมการส่งออกในช่วงไตรมาสแรกออกมาก่อนว่าจะเป็นอย่างไร อาจจะเป็นบวกน้อยกว่าที่คาดไว้ โดยในวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจะมีการประชุมร่วมกับภาคเอกชน เพื่อประเมินทิศทางการส่งออกในช่วงไตรมาส 1 รวมถึงปัญหาต่างๆ ร่วมกัน