นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 6 พฤศจิกายน 2561 มีมติเห็นชอบการปรับปรุงคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และสิทธิประโยชน์สำหรับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ หรือ สมาร์ทวีซ่า ซึ่งเป็นวีซ่าประเภทพิเศษให้แก่ชาวต่างชาติ ที่เป็นบุคลากรทักษะสูง นักลงทุน ผู้บริหาร และผู้ประกอบการวิสาหกิจเริ่มต้น หรือ สตาร์ทอัพ ที่เข้ามาทำงานในอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ
โดยรายละเอียดของการปรับปรุงคุณสมบัติ หลักเกณฑ์และสิทธิประโยชน์ของสมาร์ทวีซ่าครั้งนี้ ประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญ คือ 1.การเพิ่มประเภทกิจการอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ การบริการด้านการระงับข้อพิพาททางเลือก (Alternative Dispute Resolution) การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและพลังงานทางเลือก
2.เพิ่มสิทธิและประโยชน์ สำหรับผู้ถือสมาร์ทวีซ่า โดยคณะรัฐมนตรีได้มอบให้สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เปิดช่องทางพิเศษ หรือ Fast Track เพื่อให้ผู้ถือสมาร์ทวีซ่าสามารถใช้บริการเข้าออกราชอาณาจักรได้ ณ ท่าอากาศยานระหว่างประเทศทุกแห่งที่มีบริการช่องทางพิเศษ
3.ปรับปรุงคุณสมบัติ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขสำหรับผู้ที่จะใช้สิทธิสมาร์ทวีซ่าทุกประเภท อาทิ ลดหลักเกณฑ์รายได้ของ
ผู้เชี่ยวชาญทักษะสูงและผู้บริหารระดับสูง จากเดิมกำหนดเกณฑ์เงินเดือนต้องไม่น้อยกว่า 200,000 บาทต่อเดือน เปลี่ยนเป็นใช้เกณฑ์เงินรายได้ เพื่อให้ครอบคลุมรายได้ที่มาจากค่าตอบแทนพิเศษและโบนัส เป็นต้น นอกจากนี้สำหรับผู้เชี่ยวชาญได้ปรับลดอัตราเงินได้ขั้นต่ำเป็น 100,000 บาทต่อเดือน และ 50,000 บาทต่อเดือน สำหรับในกรณีผู้เชี่ยวชาญต่างชาติในบริษัทสตาร์ทอัพและผู้เชี่ยวชาญเกษียณอายุ
นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์สำหรับนักลงทุน และกลุ่มสตาร์ทอัพ อาทิ การลดเกณฑ์มูลค่าการลงทุนขั้นต่ำสำหรับนักลงทุน จากเดิมต้องลงทุนโดยตรงในนามบุคคลไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท ได้ปรับให้สามารถลงทุนผ่านกิจการเงินร่วมลงทุนได้ รวมถึงกรณีลงทุนในวิสาหกิจเริ่มต้นหรือโครงการบ่มเพาะหรือโครงการเร่งการเติบโต กำหนดให้มีมูลค่าการลงทุนขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาท
สำหรับสมาร์ทวีซ่าในกลุ่มสตาร์ทอัพ เพื่อเป็นการสนับสนุนการพัฒนาสตาร์ทอัพในทุกประเภท ยังได้มีการกำหนดอายุวีซ่า โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ 6 เดือน 1 ปี และ 2 ปี จากเดิมที่ให้สมาร์ทวีซ่าครั้งแรก 1 ปี และขยายได้คราวละ
2 ปี ทุกกรณี เพื่อรองรับการดึงดูดสตาร์ทอัพจากต่างประเทศเข้ามาร่วมกิจกรรมในประเทศไทย เช่น Startup Camp
สำหรับสมาร์ทวีซ่า เป็นวีซ่าประเภทพิเศษสำหรับชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเภทกิจการและภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด ที่ผ่านมามีผู้ผ่านการรับรองคุณสมบัติและเป็นผู้มีสิทธิได้รับสมาร์ทวีซ่า แล้ว รวม 28 ราย ในสาขาดิจิทัล และสาขาระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์