เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2561 นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนตุลาคม 2561 ว่าปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือน 2 นับตั้งแต่มิถุนายน2561 มาอยู่ที่ระดับ 86.4 เนื่องจากผู้บริโภครู้สึกว่ากังวลปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ปัญหาการลดลงของนักท่องเที่ยวจีนในไทย ปัญหาราคาสินค้าเกษตร เช่น ข้าวมันสำปะหลัง และยางพารายังไม่สูงและปัญหาราคาน้ำมัน ส่งผลให้กำลังซื้อชะลอตัวลง ซึ่งค่าดัชนียังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติที่ระดับ 100 สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคยังมีความกังวลถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังฟื้นตัวขึ้นไม่มากนัก
ส่วนอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจไทยปี 2561 ที่ทางศูนย์ฯ มองไว้น่าจะอยู่ที่ร้อยละ 4.6 และหากผลการพูดคุยทั้ง 2 ผู้นำจีน และสหรัฐฯ เป็นไปในทิศทางที่ดีปัจจัยอื่นปรับดีจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยปี 2562 น่าเริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาส 2 โดยเฉลี่ยจะเติบโตร้อยละ 4.3-4.5
ในวันเดียวกัน นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลง ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเดือนพฤศจิกายน 2561 ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าว่า อยู่ที่ 113.73 ลดลงจากเดือนก่อนซึ่งอยู่ที่ 122.60 หรือปรับตัวลงร้อยละ 7.23 ลดลงเป็นเดือนแรกในรอบ 5 เดือน และปรับตัวลดลงมาอยู่ในภาวะทรงตัว จากความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนที่ยังยืดเยื้อและไม่ชัดเจน รวมทั้งผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ( เฟด) ซึ่งคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้ และ 3 ครั้ง ในปี 2562 ขณะที่ปัจจัยบวก คือ ความเชื่อมั่นผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน และภาวะเศรษฐกิจในประเทศ