กลุ่มเครื่องจักรกลการเกษตร ส.อ.ท.เตรียม MOU รวด 2 ฉบับ ร่วม วว.และสมาคมไอโอทีดันตั้งศูนย์ทดสอบฯ และพัฒนานวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์เครื่องจักรกลการเกษตร หวังดันการส่งออกเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านบาท เล็งลุยตลาดแถบแอฟริกาหลังพบเริ่มมีการปลูกข้าวมากขึ้น
นายญาณพล ลิมปนะโชคชัย เลขาธิการกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการผลักดันให้อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรของไทยมีการเติบโตการส่งออกที่จะทำรายได้ให้แก่ประเทศเพิ่มขึ้นควบคู่ไปกับการก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 เร็วๆ นี้กลุ่มเครื่องจักรกลการเกษตรเตรียมลงนามข้อตกลง (MOU) 2 ฉบับ โดยฉบับแรกเพื่อจัดตั้งศูนย์ทดสอบและพัฒนานวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์เครื่องจักรกลการเกษตรกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) และฉบับที่ 2 จะลงนามร่วมกับ วว.และสมาคมไอโอทีแห่งประเทศไทยเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์เครื่องจักรกลการเกษตร
ทั้งนี้ กลุ่มเครื่องจักรกลการเกษตรนับเป็นธุรกิจของคนไทยเป็นส่วนใหญ่ มีการส่งออกเฉลี่ยปีละประมาณ 4 หมื่นล้านบาท และมีอัตราเติบโตเฉลี่ยปีละ 10-15% แต่ล่าสุดผู้ประกอบการมีความกังวลในเรื่องของการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศในอนาคต เช่น เครื่องเกี่ยวนวดข้าว รถไถเดินตาม ฯลฯ อาจต้องได้รับมาตรฐานสากลก่อนการส่งออก ซึ่งปัจจุบันการรับรองมาตรฐานคุณภาพผลิตภัณฑ์เครื่องจักรกลการเกษตรจำเป็นต้องผ่านการทดสอบจากศูนย์ทดสอบที่ได้รับการยอมรับโดยเฉพาะจาก ANTAM ซึ่งจัดตั้งศูนย์การทดสอบที่ประเทศจีน ทำให้ผู้ประกอบการไทยมีต้นทุนสูงเพราะต้องนำส่งสินค้าจากไทยไปทดสอบที่จีน ดังนั้นจึงต้องการผลักดันให้เกิดการจัดตั้งศูนย์ทดสอบฯ ในไทยขึ้น
“ศูนย์ทดสอบฯ นี้จะตั้งขึ้นเพื่อการทดสอบรองรับคุณภาพผลิตภัณฑ์ตามมาตรฐานระดับประเทศและนานาชาติเพื่อรองรับการส่งออกไปยังภูมิภาคทั่วโลก ส่วนความร่วมมือสร้างนวัตกรรมปัญญาประดิษฐนั้นจะเป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีร่วมกันและต่อยอดสู่การจดทะเบียนสิทธิบัตร การร่วมพัฒนาสมาร์ทฟาร์มมิ่ง เป็นต้น ซึ่งอนาคตเรื่องของมาตรฐานเป็นสิ่งสำคัญเพราะอาจใช้เป็นมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (NTBs) ได้ ซึ่งจะเห็นได้จากประเทศจีนได้เข้ามาจัดทำมาตรฐานระหว่างประเทศด้านเครื่องจักรกลการเกษตรแล้ว การส่งออกในอาเซียนต้องให้สอดรับกับมาตรฐานที่จีนกำหนด ไทยจึงต้องเร่งปรับตัวเพื่อประโยชน์ต่อการส่งออก ซึ่งเราจะร่วมมือกับสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ใกล้ชิดขึ้น” นายญานพลกล่าว
สำหรับทิศทางการส่งออกเครื่องจักรกลการเกษตรนั้นได้มองเป้าหมายที่จะเข้าไปทำตลาดในแถบภูมิภาคแอฟริกาเพิ่มขึ้นในอนาคต เนื่องจากประเทศในภูมิภาคนี้เริ่มมีนโยบายที่จะหันมาเพาะปลูกข้าวในประเทศเองมากขึ้น ซึ่งทำให้คาดการณ์ว่าการส่งออกข้าวไปยังภูมิภาคนี้จะลดน้อยลงในไม่ช้า แต่ไทยจะสามารถทดแทนตลาดข้าวที่อาจหายไปด้วยการส่งเครื่องจักรกลการเกษตรเข้าไปแทนที่ได้ และมาตรฐานสินค้าจึงเป็นสิ่งที่ไทยต้องเร่งทำเพื่อโอกาสในการเข้าไปทำตลาดใหม่ๆ ซึ่งจะสอดรับกับวิสัยทัศน์ของกลุ่มที่วางไว้ว่าจะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรทั่วโลก เน้นเขตเมืองร้อน(Tropical Zone)