นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เดือนกุมภาพันธ์ 2561 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 169,621 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 10,816 ล้านบาท หรือ 6.8% (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 8.5%) โดยการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากร การจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่น และการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจสูงกว่าประมาณการ 3,802 2,072 และ 1,904 ล้านบาท หรือ 3.1% 26.4% และ 15.9% ตามลำดับ
สำหรับรายได้ที่จัดเก็บสูงกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ การจัดเก็บภาษีเงินได้ปิโตรเลียมสูงกว่าประมาณการ 6,401 ล้านบาท หรือ 512.1% (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 624.5%) ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการชำระภาษีเงินได้ปิโตรเลียมย้อนหลัง และผลประกอบการของบริษัทขุดเจาะน้ำมันที่ปรับตัวดีขึ้น การจัดเก็บภาษีรถยนต์สูงกว่าประมาณการ 1,539 ล้านบาท หรือ 18.5%(สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 40.1%) เนื่องจากปริมาณรถยนต์ที่ชำระภาษีสูงกว่าที่ประมาณการไว้ และการจัดเก็บภาษียาสูบสูงกว่าประมาณการ 1,366 ล้านบาท หรือ 24.7% (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้ว 17.0%)
ทั้งนี้เมื่อรวมผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 5 เดือนแรก ของปีงบประมาณ 2561 (ตุลาคม 2560-กุมภาพันธ์ 2561) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ จำนวน 908,210 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 39,440 ล้านบาท หรือ 4.5% โดยมีสาเหตุจากการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ และการจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่น สูงกว่าประมาณการ 14,898 และ 14,884 ล้านบาท หรือ 30.0% และ 18.8% ตามลำดับ
ภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ภาษีรถยนต์ และรายได้อื่นของกรมสรรพสามิตที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 5,943 3,750 และ 1,906 ล้านบาท หรือ 283.0%, 8.9% และ 394.6% ตามลำดับ
นางสาวกุลยากล่าวว่า การจัดเก็บรายได้ในช่วง 5 เดือนแรก ของปีงบประมาณ 2561 ยังคงสูงกว่าเป้าหมาย นอกจากนี้ การดำเนินนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องของรัฐบาล ทำให้การบริโภคและการนำเข้ายังคงขยายตัว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีต่อการจัดเก็บรายได้ในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ
ส่วนทางด้านฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 5 เดือนแรก ของปีงบประมาณ 2561 (ตุลาคม 2560-กุมภาพันธ์ 2561) ว่า รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น จำนวน
894,012 ล้านบาท ในขณะที่มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้น จำนวน 1,378,010 ล้านบาท รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล จำนวน 214,900 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือน
กุมภาพันธ์ 2561 มีจำนวนทั้งสิ้น 189,327 ล้านบาท
“ฐานะการคลังของรัฐบาลในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 ยังคงอยู่ในระดับที่เข้มแข็งเพียงพอต่อการเบิกจ่าย ทั้งนี้ รัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้สูงขึ้นและสามารถเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณโดยเฉพาะรายจ่ายลงทุนได้สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เพื่อสนับสนุนให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้”