นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในการปาฐกถาพิเศษ “พลิกโฉมเศรษฐกิจไทยสู่ยุคดิจิทัล “จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจว่าตั้งแต่ต้นปี 2561 ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้น สะท้อนภาวะเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐาน โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC และแนวโน้มการปฏิรูปประเทศที่ทันสมัย ปีนี้สิ่งที่รัฐบาลจะเร่งดำเนินการ คือการปฏิรูปภาคการเกษตร การยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีศักยภาพมากขึ้น กระทรวงการคลังจะเร่งพิจารณาจัดทำงบกลางปี เพื่อปฏิรูปการเกษตรและยกระดับฐานราก เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในปีนี้
พร้อมกันนี้ยังมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ บริษัทกสท โทรคมนาคม บริษัท ไปรษณีย์ไทย ร่วมกันสร้างตลาดอีคอมเมิร์สในร้านโชห่วย และร้านค้าประชาชนให้ซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้ โดยให้นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นหัวหน้าทีม ในการศึกษาและพิจารณาด้านกฎหมายดิจิทัลให้ทันสมัย รองรับกับสิ่งที่รัฐบาลจะดำเนินการโดยให้ได้ความชัดเจนภายในปีนี้
ในระยะต่อไปจะสร้างให้ฐานรากมีความเข้มแข็ง เพราะในยุคดิจิทัล หากประเทศไทยไม่ปฏิรูปจะไม่สามารถปรับตัวเท่าทันกับโลกได้ ปัจจุบันพบว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงซื้อขายผ่านออนไลน์มากขึ้น ทำให้กลุ่มที่มีความสามารถ หรือแรงงานที่มีทักษะมีรายได้เพิ่ม
นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรมกล่าวว่าเศรษฐกิจไทยกำลังเข้าสู่ยุคดิจิทัล ผู้ประกอบการต้องปรับตัวให้ทันกับยุค โดยกระทรวงอุตฯมีมาตรการสนับสนุนให้เอสเอ็มอีตลอดจนวิสาหกิจชุมชนพัฒนาเทคโนโลยี ทั้งในรูปแบบสินเชื่อและการให้ความรู้ รวมทั้งสนับสนุนขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเป้าหมายให้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพ
รัฐบาลต้องการเน้นพัฒนาเอสเอ็มอี เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ จากเอสเอ็มอีคนตัวเล็กและรายย่อย เพราะประเทศกำลังพัฒนาต้องพัฒนาด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล การสร้างทรัพย์สินดิจิทัล เช่น ข้อมูลในรูปแบบ Big Data จากทุกภาคส่วน เพราะข้อมูลด้านต่างๆ มีความสำคัญมาก รวมทั้งเสริมทักษะบุคลากรแรงงานให้มีคุณภาพ เพราะไทยมีแนวโน้มขาดแคลนแรงงาน เมื่อแรงงานต่างด้าวกลับประเทศต้องใช้ระบบอัตโนมัติ ระบบหุ่นยนต์ทำงานทดแทน จึงต้องพัฒนาระบบต้นทุนประกอบการ
นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า ขณะนี้ทั่วโลกถูกคุกคามทางอินเตอร์เนตจากกลุ่มมิจฉาชีพ จึงเตรียมตั้งไซเบอร์เยนซี่ พัฒนาแฮกเกอร์คนดีมาป้องกันระบบ ซึ่งเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะไอทีเชื่อมโยงไปทุกส่วน ทั้งสถาบันการเงิน ตลาดหลักทรัพย์ พลังงาน สาธารณสุข จึงหวังนำร่องระบบป้องกันภัยไซเบอร์ 6 กลุ่มสำคัญ และต้องพัฒนาบุคลากรด้านซีเคียวริตี้ไซเบอร์ เพื่อรองรับสังคมเศรษฐกิจยุคดิจิทัล เนื่องจากเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญปี 2561 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคดิจิทัล เพื่อเป็นสะพานดิจิทัลบริดในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ
นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่าทุกธุรกิจต้องปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะเอสเอ็มอีในเรื่องของต้นทุน ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งได้สนับสนุนตามการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมการใช้ชีวิตของประชาชน เช่น ลดใช้เงินสดในการชำระเงิน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อกิจการของเอสเอ็มอีให้มีความสะดวกมากขึ้น เพราะปัจจุบันคนปรับตัวซื้อของผ่านออนไลน์มากขึ้นหากไม่ปรับตัว ยังขายหน้าร้านอยู่ก็จะลำบาก