นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารได้สนับสนุนเอสเอ็มอีกลุ่มสตาร์ทอัพที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ ตามนโยบายรัฐบาลที่ผลักดันเอสเอ็มอี ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ผ่านการร่วมลงทุนในกิจการเอสเอ็มอีหรือเวนเจอร์ แคปปิตอล โดยธนาคารได้จัดตั้งร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แล้ว 3 กอง วงเงินรวม 2,000 ล้านบาท ซึ่งได้มีการร่วมลงทุนแล้ว 6-7 ราย วงเงิน 200 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างพิจารณาร่วมลงทุนอีก 10 ราย คาดว่าปีนี้จะร่วมลงทุนกับเอสเอ็มอีสตาร์ทอัพที่มีนวัตกรรมใหม่ๆได้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท เพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาลที่ผลักดันให้เอสเอ็มอีขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันธนาคารยังสนับสนุนกลุ่มเอสเอ็มอีผ่านสินเชื่อเอสเอ็มอีสตาร์ทอัพคิดอัตราดอกเบี้ย 3.99% ระยะเวลา 2 ปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าสินเชื่อซอฟต์โลน ปัจจุบันได้มีการปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มนี้ไปแล้วกว่า 2,000 ล้านบาท
“เราอยากเห็นเอสเอ็มอีเกิดนวัตกรรม มีผลิตภัณฑ์ใหม่ ผ่านออนไลน์มากขึ้น เพื่อขยายช่องทางการค้าในตลาดใหม่ๆ เกิดผลิตภัณฑ์ กระบวนการ และการตลาดใหม่ๆ และสนับสนุนทั้งด้านการเป็นแหล่งทุน การจัดหาตลาด พัฒนาผลิตภัณฑ์ ตลอดจนส่งเสริมเพิ่มพูนความรู้และทักษะต่างๆ โดยเฉพาะการให้ความรู้เพื่อการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจ เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพและโอกาสในการแข่งขันธุรกิจ”
ปัจจุบันธนาคารมีลูกค้าที่เป็นมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสตาร์ทอัพจำนวน 464 ราย โดยยังคงให้การสนับสนุนผู้ประกอบการผ่านโครงการต่างๆ ของธนาคาร เช่น ผู้ประกอบการพบที่ปรึกษา (Biz Clinic) เป็นโครงการที่จัดให้ผู้ประกอบการพบที่ปรึกษาเฉพาะด้าน ช่วยให้ผู้ประกอบการแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด และยังมีโครงการ GSB Spaceเป็นพื้นที่ที่ให้ผู้ประกอบการสามารถมีพื้นที่ในการทำงาน หาข้อมูลต่างๆ รวมถึงมีการแชร์ไอเดีย ทำบิสซิเนสแมชชิ่งได้จากพื้นที่ตรงส่วนนี้
นายชาติชายกล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา ธนาคารร่วมกับสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (ITD) บรรยายให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สตาร์ทอัพ ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำธุรกิจ เพื่อให้มีแนวคิด และแนวทางการพัฒนาตนเอง ได้ปรับตัวให้ทันกับการดำเนินธุรกิจในยุค 4.0 ที่มีการแข่งขันสูงและต้องปรับตัวตลอดเวลา โดยนำนวัตกรรม หรือกระบวนการทางดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ และมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อจะได้เติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไป